พ่อแม่ร่ำไห้ "น้องตะวัน" ไปเก็บเงินในกระทง งานลอยกระทงอุดรฯ แล้วจมน้ำสมองตาย พ่อแม่ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของน้อง เพื่อต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ด้านหมอให้ทำใจ พี่ชายฝาก ใครพาเด็กไปใกล้ๆ น้ำให้ระวัง

กรณีมีชาวบ้านถ่ายคลิปเด็กชายนิรนามจมน้ำขณะลงไปเก็บเงินในกระทง ในงานวันลอยกระทงที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ทหาร 4 นายลงไปช่วยและปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งอาการโคม่า และเพจข่าวเมืองอุดรธานีประกาศตามหาญาติ ซึ่งมีชาวบ้านที่ไปเที่ยวงานลอยกระทงได้ถ่ายคลิปน้องตะวันขณะเดินเก็บเงินในกระทงเอาไว้ได้

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ พบ น.ส.สมฤทัย สุขมะโน พนักงานกู้ชีพเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ เดินไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่ ด.ช.กิตตินันท์ ฤทธิ์มหา หรือน้องตะวัน อายุ 11 ปี ชาวบ้าน หมู่ 14 บ้านชัยเจริญ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี จมน้ำ ซึ่งอยู่ภายในเกาะกลางหนองน้ำ มีทางเดินคอนกรีตรอบเกาะกลางกว้างประมาณ 1.5 เมตร และมีขั้นบันไดอยู่ในน้ำ 1 ขั้น บริเวณที่เด็กจมน้ำอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2-3 เมตร และมีเรือเจ้าหน้าที่ ปภ.ลอยอยู่ห่างจากฝั่ง 5-6 เมตร

...

น.ส.สมฤทัย กล่าวว่า เมื่อคืนนี้เทศบาลได้จัดงานวันลอยกระทง มีชาวบ้านมาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งได้ประกาศห้ามเด็กลงไปเก็บเงินในกระทง เนื่องจากสระลึกประมาณ 4-5 เมตร แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งเด็กที่ตกน้ำมาเที่ยวกับพ่อ แม่ และพี่ เด็กจะลงมายืนตรงบริเวณขั้นบันไดในน้ำ เพื่อเก็บเงินในกระทง ไม่นานก็มีคนมาบอกทหารว่ามีเด็กตกน้ำ และชี้จุดบริเวณที่เด็กตกลงไป ทหาร 4 นายจึงกระโดดลงไปงมหาประมาณ 10 นาที จึงดึงร่างขึ้นมาได้ แต่น้องหมดสติแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจประมาณ 30 นาที และนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอยากฝากผู้ปกครองให้ดูแลเด็กให้ดี เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง เพราะคนมาเที่ยวจำนวนมาก

ด้าน นางวันทนา ฤทธิ์มหา อายุ 40 ปี และนายพินิจ ฤทธิ์มหา อายุ 42 ปี แม่และพ่อน้องตะวัน กล่าวว่า พ่อเป็นพนักงานปั๊มน้ำมัน ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน มีลูก 3 คน น้องตะวันเป็นคนสุดท้อง เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านชัยพรมิตรภาพที่ 67 ปกติน้องเป็นเด็กร่าเริง ขยัน เรียนเก่ง ช่วยเหลืองานบ้านดี ออมเงินไว้ใช้ ถ้าอยากได้อะไรก็จะหารายได้เก็บของเก่า และเก็บเงินโปรยทานงานกฐิน งานบุญ งานศพ ตอนนี้น้องตะวันอยากได้โทรศัพท์มือถือ จึงหารายได้เพื่อเก็บเงิน ตอนนี้สะสมเงินได้ 500 บาทแล้ว

นางวันทนา และนายพินิจ กล่าวต่อว่า เมื่อคืนนี้พ่อและแม่ได้พาลูก 3 คนไปลอยกระทงและเที่ยวงานลอยกระทง ที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ โดยเดินเข้าไปลอยกระทงในเกาะกลางน้ำ ส่วนพ่อกลับบ้านก่อน น้องตะวันจะยืนอยู่ทางคอนกรีตชั้นล่าง เห็นเงินในกระทง 10 หรือ 20 บาท ก็อยากได้ตามประสาเด็ก จึงยืนอยู่ริมน้ำรอเก็บเงินในกระทง ตนนั่งกินซูชิมองดูลูกอยู่ใกล้ๆ ซึ่งน้องตะวันก็ได้เดินขึ้นมากินซูชิกับตน ก่อนจะเดินกลับไปเก็บเงิน ระยะเวลาไม่นานพี่ชายไปหาน้องไม่เห็น จึงมาบอกแม่และบอกทหารให้งม พบว่าน้องจมน้ำหมดสติ ปั๊มหัวใจแล้วนำส่งโรงพยาบาล

“อาการของน้อง หมอบอกว่าสมองตายแล้ว ไตวาย ตับไม่ทำงาน และปอดมีเลือดออกในปอด เพราะน้ำเข้าปอดจำนวนมาก ถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจน้องไปได้เลย หมอให้ยากระตุ้น 3 ตัวแล้ว แต่น้องไม่ตอบสนองการรักษา นอนนิ่ง กำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกถึงกระโดดลงไปเอง มีคนผลัก เดินชน เพราะเป็นคนกลัวตาย กลัวจมน้ำ ถ้าต้องลงจะเลือกลงที่ตื้นที่สุดที่ทำได้ แต่จมน้ำแบบไหน เดินลงไป หรือกระโดดลงไปตอนไหน อยู่กับลูกตลอด พี่ชายไปหาน้องไม่เห็น เห็นรองเท้าลอยข้างเดียว จึงวิ่งมาบอกแม่ว่าไม่เห็นน้อง จึงวิ่งไปบอกทหารว่าน่าจะจมตรงนี้ เพราะมีฟองอากาศลอยขึ้นมา ทหารกระโดดลงไปช่วย และดึงขึ้นมา” แม่น้องตะวัน กล่าว

...

นายพินิจ กล่าวอีกว่า ไม่เคยมาเที่ยวกับลูก มีแต่ให้ลูกมากับแม่ ตนอยู่กับลูกประมาณ 1 ชม. และได้กลับบ้านก่อน แต่ก่อนกลับตนได้ขึ้นไปบนสะพานยืนมองดูลูกยืนแช่น้ำไม่ลึก เก็บเงินในกระทง และดูว่าแม่ดูแลลูกอย่างไร พอตนแน่ใจว่าจะปลอดภัยจึงกลับบ้าน และมาทราบว่าลูกจมน้ำ คุณหมอแนะนำว่า ลูกมีบุญกับเราแค่นี้ ร่างกายน้องยังเด็ก อวัยวะบางส่วนยังใช้ได้ ทำบุญครั้งสุดท้ายให้กับลูกก่อนจะหมดลมหายใจ จึงปรึกษากับภรรยา และตกลงกันว่าจะบริจาคอวัยวะของลูก ซึ่งหมอได้นำเลือดน้องตะวันส่งไปตรวจ ต้องรออีก 2-3 วัน พอให้ครอบครัวของตนได้ทำใจ

ส่วน ด.ช.ต้น อายุ 13 ปี พี่ชายน้องตะวัน กล่าวว่า ตนกับน้องได้เดินรอบๆ หนองน้ำ ตนจะชี้กระทงให้น้องเก็บเงิน จากนั้นตนจึงได้เดินกลับไปที่จุดที่แม่และพี่สาวนั่ง ตนนั่งกินซูชิกับญาติ ไม่นานน้องตะวันก็เดินตามมากินซูชิ เสร็จแล้วเดินกลับไปเก็บกระทงต่อ ตนนั่งกินต่อ 2 ชิ้น ก็รีบเดินออกมาหาน้องแต่ก็ไม่พบ มองหาซ้ายขวาก็ไม่พบ จึงเดินตามหารอบเกาะ แต่ตนเห็นรองเท้าน้องลอยขึ้นมาจากน้ำ และมีฟองอากาศ ตนจึงได้เรียกแม่ และให้คนแถวนั้นลงไปช่วยเอาน้องขึ้นมา ส่วนตนก็ไปเรียกเจ้าหน้าที่กูภัยมาช่วย

พี่ชายน้องตะวัน กล่าวด้วยว่า ตอนนั้นน้องจมน้ำไปประมาณ 10 นาที ตอนเป็นเด็กตนก็เคยมาเก็บเงินในกระทง แต่พอโตก็เลิกเก็บ พอน้องมาเก็บตนก็จะมาด้วย ตนก็ไม่คิดว่าน้องชายจะจากไปกะทันหันแบบนี้ ตนก็อยากฝากให้ระวังเกี่ยวกับน้ำ ใครว่ายน้ำไม่เป็นก็ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ข้างๆ เพราะอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบครอบครัวตนได้.