หนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บุรีรัมย์ ต้นตำรับกินอึ่งชอต เมื่อต้นปี ยอมยกธงขาวให้กับครูสาวที่นั่งซดค้างคาวชอตนำภาพมาเผยแพร่ เผยในอดีตมีคนต่างจังหวัดกินค้างคาว แต่ปัจจุบันไม่มีใครกินแล้ว เพราะค้างคาวเป็นสัตว์พาหะนำโรคหลายชนิด
วันที่ 9 พ.ย. กรณีครูสาวคนหนึ่งทางภาคอีสาน โพสต์คลิปภาพของตัวเองนั่งกินต้มยำค้างคาวอย่างเอร็ดอร่อย ลงในเพจชื่อ กินแซบแบบนัวนัว ซึ่งต่อมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า สมควรหรือไม่เพราะค้างคาวอาจสะสมเชื้อโรคไว้ในตัว
ล่าสุด นายเกียรติดำรง ปะกายะ อายุ 47 ปี อยู่หมู่ 2 ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรแพรวา และเคยเป็นเจ้าของต้นตำรับการกินอึ่งชอต เป็นที่ฮือฮาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนั้นที่ทำคลิป เพราะอึ่ง เป็นหนึ่งในอาหารชั้นยอดของผู้คนหลายภาค และมีราคาแพงถึง กก.ละ 600 บาทตอนที่อึ่งเป็นไข่ ถึงแม้ว่าคนในเมืองกรุงอาจจะมองว่าแปลก แต่สำหรับคนต่างจังหวัดถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่มาตอนนี้เมื่อเห็นครูสาวกินค้างคาวชอตแล้วตกใจ และขอยอมแพ้ ตัวเองไม่กล้ากิน กลัวจะเป็นอันตราย เพราะที่ผ่านมามีการพิสูจน์ได้ว่า ค้างคาวเป็นพาหะของโรคหลายชนิด ซึ่งอาจรวมถึงโรคโควิด-19 ตามที่มีการวิจัยมาก่อนหน้านี้
“ในอดีตยอมรับว่า คนต่างจังหวัดมีบ้างที่จะจับค้างคาวมากิน แต่ปัจจุบันไม่น่าจะมีแล้ว ไม่เห็นใครกล้าจับมากินอีก จนกระทั่งมาเห็นครูสาวกินก็รู้สึกตกใจ ซึ่งครูสาวคงอยากนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ของคนยุคนี้ แต่อาจจะลืมคิดถึงผลกระทบที่ตามมา"
นายเกียรติดำรง ยังบอกด้วยว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนไปเที่ยวที่ประเทศเพื่อนบ้าน ยังเห็นแม่ค้าเอาค้างคาวมาวางขายในตลาดสดอย่างเปิดเผย แสดงว่า ยังมีคนบางกลุ่มยังนิยมบริโภคค้างคาวกันอยู่
...