ชาวนา ที่เป็นคู่กรณี ส.ต.อ.โบ้ส ยืนยันตำรวจชักปืนยิงขู่จริง ยิง 1 นัด เพื่อนบ้านตกใจวิ่งมาช่วยยังถูกขู่ซ้ำ จำใจแจ้งความ เพราะฝั่ง ส.ต.อ.จะเอาเรื่องไฟไหม้ลามไหม้ก๊อกน้ำประปาเสียหาย

ความคืบหน้ากรณีมีคลิปที่ถ่ายโดย ส.ต.อ.โบ้ส อายุ 34 ปี ผบ.หมู่ คพส.สภ.เมืองไหม เผยแพร่ในโซเชียล และผู้บังคับบัญชา เห็นว่าไม่เหมาะสม มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ในขณะที่ ส.ต.อ.โบ้ส อายุ 34 ปี ยอมรับว่า เป็นตำรวจสายตรวจประจำ สภ.เมืองไหม ถ่ายคลิปและพูดจาตามคลิปจริง ที่พูดเช่นนั้น เพราะไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้บังคับบัญชา ในกรณีที่ครอบครัวมีข้อพิพาทกับนายบวร แสนส่อง อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ม.1 บ้านโคกสี ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นชาวบ้านที่มีที่นาติดกับที่ดินของครอบครัว วางเพลิงเผาทรัพย์ ไฟลุกลามเข้ามาในที่ดินของครอบครัว ทรัพย์สินเสียหาย

แต่เมื่อไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองไหม ตำรวจไม่รับแจ้งความ กลับรับแจ้งความจากชาวบ้าน จนตนเองถูกแจ้งข้อหาหนัก ข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือชุมชน, ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ, ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง นั้น

ในเวลา 16.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายบวร แสนส่อง อายุ 43 ปี ที่บ้านพัก ในหมู่บ้านโคกสี นายบวร ได้นำก๊อกเปิดปิดน้ำประปาที่ยังติดอยู่กับท่อพีวีซี ที่มีรอยไหม้ติดอยู่มาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับเปิดเผยว่า ช่วงเดือนมกราคม 2564 ช่วงฤดูทำนาปรัง จึงไปเตรียมพื้นที่ทำนา รื้อหญ้าและวัชพืชออกจากที่ดินที่ติดกับริมรั้วของครอบครัว ส.ต.อ.โบ้ส เมื่อรื้อหญ้าออกแล้วจึงทำการเผาหญ้า ทำให้ไฟลุกลามไหม้เข้าไปในพื้นที่ที่ดินของบ้านตำรวจประมาณ 2 เมตร จึงรีบวิดน้ำในทุ่งนาเพื่อดับไฟ จากนั้นจึงรีบไปแจ้งให้น้องสาวของตำรวจ ที่ขายกาแฟอยู่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามให้รู้ว่า ทำไฟลุกลามเข้าในที่ดิน ไฟไหม้หญ้า และก๊อกน้ำประปา และจะทำการซ่อมแซมให้

...

“ผมแจ้งให้ทางครอบครัวตำรวจทราบเรื่อง และพร้อมที่จะรับผิดชอบซ่อมให้ หลังจากแจ้งให้น้องสาวตำรวจทราบเรื่องแล้วก็รีบหายางรัด หาอุปกรณ์ไปซ่อมท่อประปาให้ ขณะที่ผมกำลังซ่อมท่อประปาอยู่นั้น ตำรวจกับน้องสาว ก็วิ่งมาหาที่จุดเกิดเหตุ ด้วยความโกรธ โดยฝ่ายตำรวจพูดว่า สูรู้มั้ยกูเป็นใคร ก็เป็นตำรวจ พร้อมกับชักอาวุธปืนสั้นออกจากกระเป๋าคาดเอว ยิ่งขู่ 1 นัด แล้วพูดต่อว่า สูต้องซ่อมให้เสร็จไม่งั้นบ้านกูไม่มีน้ำใช้ จากนั้นก็มีเพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงปืนวิ่งมาดูผม และช่วยซ่อมท่อประปา แต่ถูกตำรวจใช้ปืนชี้หน้าข่มขู่ต่างๆ นานา” คู่กรณีของ ส.ต.อ.โบ้ส กล่าว


นายบวร กล่าวอีกว่า หลังซ่อมท่อประปาเรียบร้อย ถูกตำรวจเรียกไปพบที่ สภ.เมืองไหม ซึ่งนอกจากตนและเพื่อนบ้านอีก 2 คนแล้ว เพื่อนบ้านที่มีที่ดินติดกับที่ดินของครอบครัวตำรวจก็ถูกเรียกตัวไปด้วย ทุกคนก็ให้ความร่วมมือ เพราะคิดว่า พูดคุยกันในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่พอไปถึงโรงพัก ครอบครัวตำรวจไม่คุย และไม่มีทีท่าอ่อนโยน ยืนยันจะดำเนินคดีและนำไปสู่กระบวนการชั้นศาล การพบกันและคุยกันจึงไม่จบ เพราะครอบครัวตำรวจยืนยันจะเอาเรื่อง เมื่อกลับถึงบ้านจึงหารือกันในครอบครัวและเพื่อนๆ พร้อมใจกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.โบ้ส ในกรณีที่ยิงปืนข่มขู่ จากนั้นทุกอย่างก็ไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยศาลรับฟ้องในคดีที่ตนเป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.อ.โบ้ส ส่วนคดีที่ ส.ต.อ.โบ้ส ฟ้องตนในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์นั้นศาลยกฟ้อง คดีจึงเป็นที่สิ้นสุด และจบกันที่ชั้นศาล ตนและครอบครัวก็เลิกทำนาแปลงดังกล่าวเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย และไม่อยากมีเรื่องกับตำรวจ ถือว่าทุกอย่างจบกันแล้ว


กรณีมีคลิปที่ถ่ายโดย ส.ต.อ.โบ้ส แชร์ในโซเชียลนั้น นายบวร กล่าวว่า เห็นคลิปแล้ว เกิดความกลัว ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนเลย เพราะเป็นคำพูดที่น่ากลัว จึงขออยู่แต่ในบ้าน ไม่เกี่ยวข้องกันอีก ใครทำอะไรไว้ก็รับผลที่ตามมาของตัวเองไป เพราะตนและครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง ข้อพิพาทที่มีต่อกันก็จบที่ศาลแล้ว ส่วนเรื่องที่ คู่กรณีจะยื่นอุทธรณ์คดี ก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับตน.

...