มวลน้ำที่ได้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองชัยภูมิ เขตเทศบาล พื้นที่เศรษฐกิจ และสถานที่ราชการ ทำให้ถนนทุกสายจมน้ำแล้ว โดยพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูงต้องใช้เรือเพราะรถวิ่งไม่ได้ ชาวบ้านโอดหนักซ้ำรอยปี 64


หลังจากที่พายุโนรูเคลื่อนสู่จังหวัดชัยภูมิ จนทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องบนเทือกเขาภูแลนคา และเขตรอยต่ออำเภอหนองบัวแดง และ อีกหลายๆ อำเภอจนทำให้สถานการณ์น้ำป่าทะลักจากเทือกเขาภูแลนคา เกิดน้ำหลากล้นสันเขื่อนลำปะทาวมาต่อเนื่องเข้าสู่เป็นวันที่ 5 ตั้งแต่ช่วงบ่ายสองเมื่อวานที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 2 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลน้ำที่ได้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองโซนเศรษฐกิจย่านกลางเมืองชัยภูมิ ได้เพิ่มทั้งขยายวงกว้างถนนแทบทุกสายรถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมขังสูงในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ทั้ง 25 ชุมชน ชาวบ้านได้รับผลกระทบและเดือดร้อนหนักบางชุมนุมถูกตัดต้องใช้เรือเข้าออกชุมชนเท่านั้น ชาวบ้านที่มีชั้นเดียวต้องเร่งขนย้ายสิ่งของ และอพยพออกจากพื้นที่ อีกทั้งยังมีฝนตกหนักในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองตั้งแต่ช่วง 2 ทุ่มจนถึงเที่ยงคืนเป็นระยะๆ

...

เมื่อตอนเช้าที่ผ่านมา มวลน้ำป่าจากเขื่อนลำประทาว ยังคงไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมืองชัยภูมิ และเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้ในเขตเทศบาล ถนนทุกสายจมอยู่ใต้น้ำ ระดับน้ำท่วมสูง 50-80 ซม.ในพื้นที่ลุ่มต่ำ รถเล็กไม่สามารถขับผ่านไปได้ ถนนหลายสายย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองชัยภูมิถูกน้ำท่วม ศูนย์ราชการหลายหน่วยงานถูกน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะถนนจาก 5 แยกโนนไฮ-อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล หน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ และ ถนนหฤทัยใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจพร้อมตลาดสดเทศบาลทั้ง 2 แห่งต้องปิดตลาด เพราะน้ำเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นในขณะนี้การเดินทาง สัญจรไปมาในตัวเมืองชัยภูมิ ต้องใช้เรือในการเดินทาง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานจากหลายมูนิธิเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้การช่วยเหลือนำส่งผู้ป่วย หรือ เจ้าหน้าที่ที่จะเข้าพื้นที่ไปทำงาน โดยแต่ละซอยนั้นจะมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยกู้ภัยจอดเรือรอรับบริเวณปากซอยของแต่ละซอยที่มีที่จอดรถ และเดินทางต่อโดยทางเรือเพื่อเข้าที่ทำงานต่อไป

สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้ ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 65 มีชาวบ้านถูกน้ำท่วมบ้านกว่า 2,500 ครอบครัว ประชากรกว่า 30,000 คน ชั้นล่างอาศัยอยู่ไม่ได้แล้วบ้านชั้นเดียวต้องอพยพออกไปอยู่สถานที่เทศบาลจัดไว้เป็นที่พักชั่วคราว ส่วนตามพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ น้ำป่ายังหลากท่วมสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ที่ถือว่าหนักสุดอีกรอบ ซ้ำรอยปี 2564 ที่ถูกน้ำท่วมใหญ่ในรอบกว่า 50 ปี ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของตัวบ้าน รอคอยความช่วยเหลือ มีประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนถูกตัดขาดเข้าออกชุมชนไม่ได้ เทศบาลเมืองชัยภูมิต้องตั้งโรงครัว นำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านได้กินข้าว มีน้ำสะอาดดื่มวันละ 3 มื้อ

ก่อนหน้านี้ จ.ชัยภูมิ ประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติน้ำท่วมอีก 5 อำเภอ คือ อ.จัตุรัส อ.บำเหน็จณรงค์ อ.บ้านเขว้า อ.เนินสง่า หลังจากก่อนหน้าที่ อ.เมือง และ อ.คอนสวรรค์ ประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว รวมทั้งหมด 7 อำเภอแล้ว.