เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง เปิดใจกรณีภาครัฐแนะนำให้ใช้เตาอั้งโล่ หรือเตามหาเศรษฐี แทนแก๊สที่ราคาแพง ชี้เป็นไปไม่ได้ เพราะร้านตามสั่งต้องการความเร็ว เตาอั้งโล่ร้อนช้า รอนาน และอาหารจะไม่สุก
จากกรณีที่ทาง กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้เสนอให้ใช้เตามหาเศรษฐี ซึ่งเป็นเตาหุงต้มที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทดแทนเตาอั้งโล่ในท้องตลาด ให้ความร้อนมากกว่าเตาอั้งโล่ 29% สามารถประหยัดไม้ฟืนและถ่านได้ 500-600 บาท ต่อครัวเรือนต่อปี และลดการใช้แก๊ส LPG ด้วยนั้น
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด มีเสียงสะท้อนทั้งในโลกออนไลน์ และแม่ค้าขายอาหารต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำเตาอั้งโล่ หรือเตามหาเศรษฐี มาใช้ในชีวิตประจำวันในการประกอบอาชีพขายอาหาร
นางจริยา เอี่ยมละออ เจ้าของร้านอาหารตามสั่งในจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า การใช้เตามหาเศรษฐี ตามที่กระทรวงพลังงานออกมาแนะนำนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะชีวิตจริงการทำอาหารขายนั้นต้องอาศัยความรวดเร็วในแต่ละจาน จะให้มาตั้งรอกระทะร้อนนั้นช้ามาก ใช้เวลาหลายนาที ไม่ทันลูกค้าแน่นอน และหากไม่ร้อนแล้ว อาหารก็เหม็นคาว ไม่สุก ลูกค้าอาจจะท้องเสียแน่นอน แค่นี้ทุกคนก็ใช้ชีวิตลำบากแล้ว
...
"ค่าของสด เครื่องปรุง น้ำมัน ทุกอย่างพาเหรดขึ้นราคาอย่างไม่หยุดหย่อน จนร้านต้องแทบจะกราบขอโทษลูกค้าที่ต้องขึ้นราคาในบางเมนู ตั้งแต่ขายอาหารตามสั่งมา 12 ปี ยังไม่เคยเจอของขึ้นราคา แก๊สที่แพงมากขนาดนี้ ทางร้านใช้แค่ 2 วันก็หมดถัง ในแต่ละครั้งที่สั่งแก๊สไป ต้องถามอยู่ตลอดว่าราคาเท่าไร เพราะราคาในช่วงนี้นั้นขึ้นอย่างเดียว ไม่มีลงจริงๆ" เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง กล่าว.