สสจ.ชัยภูมิ ยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ไปเป็นลูกศิษย์พระบิดาตามที่หมอปลากล่าวอ้าง ขณะที่ประกาศชวนคนที่ไปร่วมนับถือให้มาตรวจสุขภาพ หาเชื้อโรคต่างๆ พร้อมกั้นพื้นที่คนไม่เกี่ยวห้ามเข้า

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 65 นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่ หมอปลา ได้นำนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.ภูเขียว อ.คอนสาร บุกค้นสำนักประหลาด ในพื้นที่ ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้บุกจับพระบิดาอ้างว่าเป็นพ่อทุกศาสนา หลังจากที่หมอปลา ได้รับเรื่องขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกสาวของผู้เป็นแม่ที่ป่วยได้ร้องทุกข์กับหมอปลา อยากพาแม่ไปรักษา รพ. ความดันที่โรงพยาบาล แต่แม่มาอยู่กับเจ้าลัทธิ อ้างตนเป็นเจ้าสำนักใหญ่กว่าทุกศาสนา แม่อยู่มาปีกว่า พบว่า ยาที่รักษาแม่ คือ ให้แม่กินปัสสาวะ เสลด อุจจาระ โดยอ้างว่ากินแล้วจะขึ้นสวรรค์ และหายปกติ นอกจากนี้ ยังพบศพอีก 11 ศพ โดยยังไม่มีเอกสารยืนยัน 5 ศพ และให้ลูกศิษย์กินฉี่ กินเสลด กินขี้ไคลเพื่อเป็นยารักษา

สสจ.ชัยภูมิ กล่าวต่อว่า ขณะเข้าจับกุมได้พบชายสูงรูปร่างผอม ผมยาว หงอกขาว ซึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นพระบิดาของทุกศาสนา ยังให้ลูกศิษย์กินปัสสาวะ กินเสมหะ กินอุจจาระ รวมถึงขี้ไคลเป็นยารักษาโรค เบื้องต้นทางตำรวจได้เชิญตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกจากสำนัก ท่ามกลางเสียงร้องตะโกน ต่อต้าน ของลูกศิษย์ ที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่นำตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกไป ขณะนี้เข้าจับกุมหมอปลา ได้มองเห็นมีผู้ใหญ่คนหนึ่งใส่เสื้อเหมือนเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในพื้นที่ อ.คอนสาร ร่วมอยู่ด้วย ทำให้เข้าใจว่าเป็นลูกศิษย์ของเจ้าสำนักลัทธิประหลาดอ้างตนเป็นพระบิดาทุกศาสนา จึงได้เกิดการต่อว่าหญิงที่ใส่เสื้อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขขึ้น และออกมาให้ข่าวกับหลายสำนักว่า แม้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังเป็นลูกศิษย์เจ้าสำนักประหลาด หรืออุบาทว์

...

นายแพทย์วชิระ กล่าวชี้แจงว่า หลังได้ร่วมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจสอบพื้นที่พบศพ 11 ศพ ขั้นตอนต่อไปจะอยู่ในขั้นตอนการชันสูตรศพ โดยจะร่วมกับทางนิติเวชแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ ดำเนินการชันสูตรศพ ในวันนี้เพิ่มเติม ในส่วนของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปรากฏเป็นข่าวว่าไปอยู่ในทีมหนึ่งของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงนะครับไม่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปร่วมอยู่ในกลุ่มนี้ ความจริงคือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ร่วมกับคณะของอำเภอคอนสาร เข้าไปในพื้นที่ โดยลักษณะของคุณหมอตุ้ยเขาจะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน การทำงานในพื้นที่ จะเริ่มจากการเข้าไปสร้างสัมพันธภาพทักทายกันก่อน ก็เห็นว่าเป็นผู้สูงอายุก็ยกมือไหว้ก็เท่านั้นเอง ไม่ได้ไปถวายของ ไม่ได้เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ได้เข้าไปนับถือแต่อย่างใด และจากการตรวจค้นเวชระเบียนของโรงพยาบาลคอนสาร และโรงพยาบาลใกล้เคียง ก็ไม่ปรากฏว่านายนที คนนี้เข้าไปรับบริการในสถานบริการของรัฐแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในส่วนของบุคคลที่เข้าไปร่วมนับถือ อยู่ในบริเวณที่ตำบลดงกลางแห่งนี้ ขอเชิญชวนให้มาตรวจสุขภาพกันทุกคนเพื่อตรวจหาเชื้อโรคต่างๆ ด้วย

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพื้นที่ตั้งสำนักประหลาด หรือสำนักอุบาทว์ เมื่อมีการเคลื่อนย้ายศพไปแล้ว แต่ยังไงก็ตามพื้นที่ตรงนั้นอาจจะมีพวกสิ่งโสโครกอยู่ ทำให้พื้นที่นั้นไม่ปลอดภัย ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิจะร่วมกับทาง อบต.ดงกลาง ใช้พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 ประกาศให้เป็นพื้นที่เขตรำคาญไม่ให้มีการเข้าไปในพื้นที่นั้นจนกว่าจะดำเนินการระงับเหตุรำคาญหรือว่าทำความสะอาดอะไรในพื้นที่นั้นให้เรียบร้อยก่อน จึงจะทำให้ชาวบ้านหรือว่าสาธารณะรอบๆ ข้างสบายใจ

นายแพทย์วชิระ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ห้ามทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่อีกต้องถูกจับกุมทุกคน และขณะนี้ จะให้หน่วยงานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทั้ง 16 อำเภอ เข้าตรวจสอบค้นหาว่ามีการดำเนินการ หรือมีการกระทำลักษณะเช่นนี้อีกหรือไม่ หากพบจะต้องถูกดำเนินจับกุมทันที ส่วนในพื้นที่ ต.ดงกลาง ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่ มีอยู่ประมาณ 100 คน คงไม่เข้าไปใช้พื้นที่ได้อีกต่อไป.