"พระบิดา" สำนักเพี้ยน คอตกนอนคุก หลังถูกค้านประกันตัว ทั้งยังนำตัวไปขึ้นศาลไม่ทัน คาดนำตัวขึ้นศาลพรุ่งนี้ ล่าสุดโดน 4 ข้อหา ขณะที่การตรวจค้นสำนัก พบศพหญิงสาวที่เสียชีวิตไม่นาน เพราะมีกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 65 ที่ จ.ชัยภูมิ พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอำเภอคอนสาร เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมประหลาด โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ฝ่าย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่า และตรวจชันสูตรร่างทั้ง 11 ร่าง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และจะได้ขออายัดศพหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณเพิงพักที่ใหญ่ และมีโลงศพอยู่ภายใน 5 โลง ซึ่งด้านในเพิงพักหลังใหญ่มีสิ่งของวางระเกะระกะจำนวนมาก ภายในเพิงพักยังมีโอ่งน้ำอยู่บริเวณใกล้กันกับมุ้งที่นอนผู้ที่มาปฏิบัติธรรมอยู่หลายใบ ซึ่งภายในมีฝุ่นคลุ้ง กระจัดกระจายคล้ายกับไม่มีคนอยู่ อีกทั้งยังเป็นที่หลับนอนของผู้มาปฏิบัติธรรม และผู้ที่อ้างตัวเป็นพระบิดา ซึ่งระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นนั้นไม่มีผู้อาศัยอยู่ภายในเพิงพักหลังใหญ่ มีเพียงผู้อาศัยอยู่บริเวณกระท่อมด้านนอก ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบริเวณดังกล่าวแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำศพที่อยู่ภายในโลงในเพิงพักใหญ่ออกมาวางเรียงใว้ด้านนอก ก่อนที่จะตรวจสอบตามกระท่อมที่อยู่ด้านนอก
...
ขณะที่เข้าตรวจค้นภายในกระท่อมด้านนอกก็มีโลงศพอยู่อีกจำนวน 6 โลง ที่อยู่ภายในกระท่อมบ้าง และอยู่ด้านนอกกระท่อมที่ถูกจัดวางไว้ ซึ่งมีจำนวน 2 โลงที่อยู่ด้านนอก ต่อสายยางออกจากโลงศพเพื่อนำน้ำเหลืองออกมาใส่ถังที่จัดเตรียมใว้ ส่วนบางศพก็อยู่ภายในกระท่อมเล็กๆ ในป่า บางศพซึ่งคาดว่าเป็นผู้ที่มาอยู่ก่อนถูกนำศพไว้ในที่บรรจุ ซึ่งใช้ปูนก่อปิดล้อมเป็นที่เก็บศพ เปิดเข้าไปดูก็พบเพียงกระดูก
ส่วนบางศพที่อยู่ในบ้านซึ่งอยู่ห่างออกมา ซึ่งคาดว่าเป็นศพใหม่ที่เพิ่งเสียชีวิตไม่นาน เจ้าหน้าที่จึงนำออกมาตรวจสอบพบเป็นศพของผู้หญิง ซึ่งมีกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณดังกล่าว ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยถุงซิปที่บรรจุ ก่อนนำใส่โลงและนำไปเก็บใว้ในกระท่อมที่พักซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ที่มาปฏิบัติธรรม หรือผู้ที่มาอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำมาเรียงไว้บริเวณหน้าเพิงพักหลังใหญ่ ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างทั้ง 11 ศพไปเก็บรักษาที่สุสานมูลนิธิเต็กก่า ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เพื่อทำการตรวจสอบและทำการตรวจหาดีเอ็นเอ พร้อมทั้งหากมีญาติ หรือมีผู้นำเอกสารระบุว่าเป็นญาติ ก็จะได้มอบให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
ขณะที่ ศาลจังหวัดภูเขียว นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี หรือ "โจเซฟ พระบิดา" เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประหลาด ถูกแจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ 1.ข้อหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ 2.ข้อหาการรักษาโรค ผิด พ.ร.บ.เวชกรรม ที่ไม่เป็นไปตามหลักสาธารณสุข 3.ข้อหาการเคลื่อนย้ายศพจัดการศพ และ 4.ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และคุมตัวส่งศาลจังหวัดภูเขียว เบื้องต้นได้คัดค้านการประกันตัวอีกทั้งยังไปขึ้นศาลไม่ทัน ทำให้พระบิดาถูกคุมขังใว้ที่ศาลจังหวัดภูเขียว และจะนำตัวขึ้นศาลอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ต่อไป.