ยาย 72 ปี ร่ำไห้ต่อหน้าศพสามีวัย 77 ปี ที่อยู่กันมา 50 ปี หลังจากขนเครื่องเซ่นไปไหว้ไร่อ้อยที่ตัดแล้วใน อ.บ้านด่าน หวังปีหน้าให้อ้อยราคาดีเท่ากับปีนี้ ขากลับเกิดเสียหลักรถล้มเสียชีวิตคาที่

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 65 ร.ต.อ. ปรีชาศักดิ์ ศักยปรีชา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหนองบึง ว่าพบศพอยู่ข้างทาง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านด่าน และแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านด่าน ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน ในหมู่บ้านสายหนองบึง - บ้านดงกระทิง ในเขต ต.บ้านด่าน ข้างทางพบศพนายจันทร์ ยิ้มรัมย์ อายุ 77 ปี ชาวบ้านพื้นที่ ม.13 บ้านหนองทับ ต.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ สภาพนอนหงาย ขาซ้ายพาดกับแฮนด์รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ แดง หมายเลขทะเบียน ขรร 204 บุรีรัมย์ สภาพศพคอหัก ใกล้กันพบตะกร้าใส่ของหล่นอยู่ และพบสิ่งของลักษณะเป็นเครื่องเซ่นไหว้ประกอบด้วย ขวดเหล้าขาวเปิดแล้ว ธูป เทียน หมากพลู หล่นกระจัดกระจายทั่วบริเวณ

สอบถามนายสาน ชะงักรัมย์ อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ม.9 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน คนพบศพคนแรกเล่าว่า ช่วงเช้าตนเองขี่รถจักรยานยนต์จะไปทำงานขี่ผ่านเส้นทางดังกล่าว เห็นคนนอนอยู่ข้างทาง จึงกลับรถมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบ

...

ด.ช.เอ (นามสมมติ) หลานผู้เสียชีวิต ให้การกับตำรวจว่า ตนมาพร้อมกับตาเอาของไปเซ่นไร่อ้อยที่ตัดแล้ว ตั้งแต่ตอนเช้า ขากลับตาบอกว่าให้ออกไปก่อน จึงขับรถออกมา เมื่อไปถึงบ้านไม่เห็นตากลับมา จึงขับรถย้อนไปดูพบว่าตา รถล้มเสียชีวิตแล้ว

ต่อมาได้มีนางสมร ยิ้มรัมย์ อายุ 72 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และเมื่อมาเห็นศพสามีถึงกับเข่าทรุด ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกับเล่าทั้งน้ำตาว่า ช่วงเช้าสามีไปกับหลานชายขี่รถจักรยานยนต์ไปคนละคัน เพื่อที่จะไปเซ่นผีที่ไร่อ้อย ตามประเพณีเมื่อตัดอ้อยเสร็จจะต้องมีการเซ่นไหว้ ขอให้อ้อยตอถัดไปเจริญเติบโตสวยงาม และอยากให้ราคาอ้อยดีเหมือนปีนี้อีก จนมาทราบข่าวว่าสามีประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต

ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายน่าจะแขวนตะกร้าไว้กับมือจับของรถจักรยานยนต์ แล้วเกิดติดขัดระหว่างช่วงเลี้ยว จึงทำให้ตาบังคับรถไม่ได้พุ่งตกข้างทางเสียชีวิตดังกล่าว.