ลุง 65 อดีตครูวัยเกษียณ ขับเก๋งไปซื้ออาหารปลาที่ตลาด เสียหลักชนเสาไฟฟ้า พลิกคว่ำข้างทาง-ดับคารถ เมียเผยผู้ตายมีโรคประจำตัว-ป่วยหลายโรค เคยวูบหลับหลายครั้ง คาดวูบเป็นสาเหตุ ด้าน จนท.เผยจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง-เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องติดสัญญาณไฟ-ติดตั้งรั้วกั้นทางโค้งด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 65 ร.ต.ท.กฤษฎา สังข์ฤกษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัตนบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งชนเสาไฟส่องสว่างริมทาง มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายรัตนบุรี-บ้านแก ช่วงทางโค้งไปบ้านแก ต.แก อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยฮุก 31

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีดํา ทะเบียน กค 1534 สุรินทร์ พลิกคว่ำหงายท้องอยู่ข้างถนน สภาพหน้ารถยุบพังเสียหาย ประตูถูกล็อก และเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ ส่วนคนขับพบติดอยู่ภายในไม่ได้สติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงทุบกระจกด้านหลังรถออก นำร่างคนขับออกมา และพบว่าเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายเชี่ยว สุดใสย์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 10 ต.แก อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เป็นอดีตข้าราชการครูเกษียณ จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น พบบาดแผลบริเวณศีรษะและคาดว่าอาจคอหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงนําศพส่ง รพ.รัตนบุรี เพื่อทำกรชันสูตร และจะมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

จากการสอบถาม นางนภาพร สุดใสย์ อายุ 63 ปี ภรรยาผู้ตาย ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการครูเกษียณเช่นกัน เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเช้า สามีบอกจะไปซื้ออาหารปลาที่ตลาดใน อ.รัตนบุรี จากนั้นขับรถออกจากบ้านไป โดยตนก็ไม่อยากให้ไป เพราะสามีมีโรคประจําตัวอยู่หลายโรค ทั้งโรคเบาหวาน ความดันตํ่า อีกทั้งสามียังเคยวูบหลับมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ตนว่าสามีน่าจะเกิดจากการวูบหลับจากโรคประจําตัว จึงทำให้รถเสียหลักหลุดโค้งไปชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต

...

ด้าน ด.ต.เอกพงษ์ ศรีโยยา และ ด.ต.ภูวนาท กลั้วพิมาย เจ้าหน้าที่สายตรวจตู้ยามแยกบ้านแก เปิดเผยว่า บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้ง มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก เพราะถนนเป็นทางโค้ง จึงไม่มีความปลอดภัย ตนอยากให้ติดสัญญาณไฟ และทำแผงรั้วกั้นบริเวณข้างถนนที่เป็นทางโค้ง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน