สุดสลด นศ.หนุ่มปริญญาโท มข. ฆ่าตัวตายสยอง คาห้องพักอพาร์ตเมนต์ ปมเครียดถูกเพื่อนสนิทเป็นติวเตอร์สาวประเภทสองคนดังโลกโซเชียล “มาดามมาย” ให้กู้เงินนอกระบบมาให้แล้วหนีหนี้ไปไม่ใช้คืน รวมยอดเงินทั้งต้นและดอก 97,800 บาท หาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยอาทิตย์ละ 12,000 บาทไม่ไหว สุดท้ายโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อก่อนตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ใช้ความพยายามถึง 4 ครั้งทั้งผูกคอ ซดน้ำยาล้างห้องน้ำ กรีดข้อมือก่อนเชือดคอเลือดทะลักสิ้นใจทุรน พ่อสุดเศร้ารับศพลูกชาย ลั่นต้องไม่ตายฟรี คนที่เป็นต้นเหตุต้องรับผิดชอบ
เหตุสลดใจ นักศึกษาหนุ่ม ป.โท ถูกเพื่อนสนิทเบี้ยวหนี้ที่ตัวเองไปกู้มาให้ เครียดจัดตัดสินใจฆ่าตัวตายสยองรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 20 ส.ค. ร.ต.อ.สิงหา หงส์อ่อน รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รับแจ้งเหตุคนฆ่าตัวตายในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านโนนม่วง ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น จึงรายงานให้ พ.ต.ท.ปุณณริศร์ ธรานันทเศรษฐ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น หน.สภ.ย่อย มข. นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในห้องพบศพนายวรพล สมผล อายุ 25 ปี นักศึกษาปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) นอนจมเลือดอยู่ข้างเตียงนอน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ ไม่นุ่งกางเกง น้ำลายฟูมปาก ที่ลำคอและข้อมือทั้ง 2 ข้างถูกของมีคมกรีดเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลทะลัก ในห้องน้ำเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้จนน้ำเอ่อท่วมเข้ามาในห้อง พบสายไฟยาว 2 เมตร 1 เส้นและน้ำยาล้างห้องน้ำที่เพิ่งเปิดใช้วางอยู่ในห้องน้ำ สภาพภายในห้องข้าวของกระจายเกลื่อน มีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของผู้ตายเสียบปลั๊กชาร์จไฟและเปิดใช้งานอยู่ ตำรวจเปิดเฟซบุ๊กของผู้ตายโพสต์ครั้งสุดท้ายเวลา 15.43 น.วันที่ 19 ส.ค.เขียนข้อความทำนองตัดพ้อเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทคนหนึ่งที่ให้ผู้ตายไปกู้เงินมาให้แล้วหนีไปไม่มาใช้หนี้ รวมยอดเงินทั้งต้นและดอกเบี้ยรวม 97,800 บาท และวันที่ 20 ส.ค.ผู้ตายได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์พร้อมโพสต์ข้อความว่า “บทเรียนของชีวิต และวิบากบาป ศักดิ์สิทธิ์”
...
พ.ต.ท.ปุณณริศร์เผยว่า จากการสอบถามผู้พักอาศัยในอพาร์ตเมนต์ทราบว่าเห็นน้ำไหลนองออกมาจากห้องของผู้ตายจึงเรียก รปภ.มาดู เคาะประตูเรียกไม่มีเสียงตอบ พอเปิดประตูเข้าไปพบศพอยู่ในห้องรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยใช้ความพยายาม 4 ครั้ง ครั้งแรกนำสายไฟมาผูกคอตัวเองในห้องน้ำแต่ไม่ตาย ครั้งสองกินน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไปก็ยังไม่ตาย ครั้งสามกรีดข้อมือตัวเองทั้งสองข้างแต่ยังไม่ตายอีก สุดท้ายตัดสินใจใช้มีดเชือดคอตัวเองและเสียเลือดมากจนเสียชีวิต ส่วนก๊อกน้ำที่เปิดทิ้งไว้ในห้องน้ำอาจตั้งใจเปิดไว้ให้น้ำล้นออกมานอกห้องเพื่อให้มีคนเห็นและเข้ามาพบศพ หลังตรวจที่เกิดเหตุนำศพส่ง รพ.ศรีนครินทร์ ให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง
ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 21 ส.ค. ที่แผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ นายประสิทธิ์ สมผล อายุ 50 ปี พ่อของผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 9 ต.หัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เดินทางไปรับศพลูกชายด้วยความโศกเศร้า พร้อมเผยว่าลูกชายเรียนจบปริญญาตรีที่ มข.และเรียนต่อปริญญาโทใกล้จะจบแล้ว พักอยู่ที่ขอนแก่นมาตลอดไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง เมื่อ 3 วันก่อนโทรศัพท์มาขอเงินซื้อข้าวกิน 500 บาท ก็โอนให้ตามปกติ กระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตรีบเดินทางมารับศพ ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายทราบจากเพื่อนๆของลูกชายว่า เกิดจากปัญหาเรื่องหนี้สินที่ลูกชายไปกู้เงินนอกระบบมาให้เพื่อนสนิทเป็นสาวประเภทสองคนหนึ่งชื่อ “มาดามมาย” แล้วเพื่อนคนดังกล่าวหนีหายไปไม่ยอมมาใช้หนี้ รวมยอดเงินทั้งต้นและดอก 97,800 บาท ลูกชายต้องจ่ายดอกเบี้ยอาทิตย์ละ 12,000 บาท แต่มีรายได้ไม่พอเพราะกำลังศึกษาอยู่ เงินที่ใช้จ่ายได้มาจากพ่อและป้าส่งมาให้เท่านั้น เมื่อแก้ไขปัญหาไม่ได้เลยเครียดจัดตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่ตนยังติดใจเพราะลูกชายเป็นคนจิตใจอ่อนโยนมีน้ำใจไม่น่าจะคิดสั้น ถ้าขอเงินหรือปรึกษาพ่อก็จะช่วย แต่ลูกชายไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง ยืนยันไม่ปล่อยให้ลูกชายตายฟรี คนที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ลูกชายยืมมาต้องมารับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “มาดามมาย” เป็นนักกิจกรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโซเชียลและเป็นติวเตอร์สอนภาษา ส่วนผู้ตายเคยเป็นนายกสโมสรนักศึกษาของคณะและประธานเชียร์ รู้จักกันตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาเรียนอยู่ที่ มข.ด้วยกัน หลังเรียนจบทั้งคู่ยังติดต่อกันตามปกติ กระทั่ง “มาดามมาย” ขอความช่วยเหลือให้ผู้ตายกู้เงินนอกระบบ 60,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ด้วยความหวังดีผู้ตายไปกู้เงินมาให้ แต่ภายหลัง “มาดามมาย” กลับไม่ยอมจ่ายทั้งเงินต้นและดอก ผู้ตายต้องนำทองและทรัพย์สินที่มีอยู่ไปจำนำเพื่อหาเงินจ่ายดอกเบี้ยอาทิตย์ละ 12,000 บาท กระทั่งหนี้สินพอกพูนเป็นเงิน 97,800 บาท แต่ยังไม่สามารถติดต่อ “มาดามมาย” ได้ จนสุดท้ายเครียดจัดตัดสินใจปลิดชีพตัวเองท่ามกลางความโศกเศร้าของเพื่อนๆ ส่วน “มาดามมาย” มีกระแสข่าวว่าให้เพื่อนๆกู้ยืมเงินมาให้ตัวเองลักษณะนี้หลายรายแล้วหนีหนี้ไปอยู่กรุงเทพฯนานแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นเหตุสลดสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์จนแฮชแท็ก #มาดามมาย ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของเมืองไทย