เศร้าอีก หนุ่มโปรแกรมเมอร์อนาคตไกล เสียชีวิตปริศนา หลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกได้เพียง 1 วัน แพทย์ลงความเห็นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ญาติติดใจ ลั่น ถ้าไม่ฉีดคงไม่ตาย วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ ขอความยุติธรรมให้ครอบครัว
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ อาบน้ำ' ให้ยุง (พี่สาวผู้ตาย) ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “โทนี่ทำไมต้องมาทิ้งพวกเราไปด้วยมีกันอยู่แค่2คนพี่น้องแล้วตอนนี้ได้แต่รอ รออย่างเดียวทรมาน ใครจะทำใจได้ ทำไมอ่ะ ทำไมต้องมาเกิดกับครอบครัวเราด้วย กะทันหันแบบนี้ใครจะทำใจได้”
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านโนนแก้ว ตำบลสระนกแก้ว อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด สถานที่จัดงานศพของ นายวนัส สุทธิประภา หรือโทนี่ อายุ 25 ปี ผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาได้เพียง 1 วัน
สอบถาม ร.ต.ต.วสันต์ สุทธิประภา พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางครอบครัวยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย หลังจากรับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 1 ที่ศูนย์รับวัคซีน รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (รังสิต) ในวันที่ 31 ก.ค.64 เวลา 09.00 น.
ซึ่งปกติลูกชายของตนเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ และตรวจสุขภาพประจำปีก็ไม่มีโรคประจำตัว แต่หลังจากฉีดวัคซีนได้เพียง 1 วัน ลูกชายก็นอนเสียชีวิตที่ห้องพัก ซึ่งตนก็ทราบจากแฟนสาวของผู้ตายว่า หลังจากฉีดวัคซีนก็กลับไปนอนพักที่ห้อง มีอาการไข้สูง หายใจไม่สะดวก ซึ่งแฟนสาวก็พยายามโทรสอบถามอาการอยู่ตลอด แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่ายังไหว จนในช่วงกลางดึกของวันที่ 31 ก.ค. ก็ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากนั้นในช่วงสายของวันที่ 1 ส.ค. จึงได้แจ้งให้ผู้ดูแลห้องพักขึ้นไปดู ก็พบว่าลูกชายนอนเสียชีวิตภายในห้อง
...
ตนทราบข่าวก็เสียใจมาก จึงได้รีบเดินทางไปรับศพลูกชาย แต่ผลการชันสูตรจาก รพ.ภูมิพลฯ ลงความเห็นว่า ลูกชายหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งทางครอบครัวติดใจในสาเหตุการตายเป็นอย่างมาก เพราะลูกชายของตนแข็งแรงดี ไม่เคยมีโรคประจำตัว หากไม่ไปฉีดวัคซีนก็คงไม่ตาย หลังจากนี้จะรวบรวมเอกสารหลักฐานยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบในสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง และไม่อยากให้ใครต้องมาสูญเสียเหมือนครอบครัวของตน
สอบถามแม่ผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายเพิ่งเรียนจบในสาขาคอมฯธุรกิจ ในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อปี 62 หลังจากนั้นก็สมัครเข้าทำงานจนได้เป็นโปรแกรมเมอร์ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา กทม. ซึ่งโดยปกติลูกชายจะชอบเล่นบาสเกตบอล เพราะสมัยเรียนมัธยมก็เป็นอดีตนักกีฬาโรงเรียน ไปคว้าแชมป์ทั้งระดับจังหวัด และเข้าร่วมแข่งขันในระดับภาคอีสาน ก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากฉีดวัคซีนแล้วจะมาเสียชีวิต เพราะยังหนุ่มยังแน่น อยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวตนด้วย
สอบถามพี่สาวผู้ตาย เล่าว่า ตนอยากเรียกร้องความเป็นธรรม ตนไม่เชื่อว่าน้องชายจะนอนไหลตายตามที่แพทย์ลงความเห็น เพราะถ้าหากน้องไม่ไปฉีดวัคซีน น้องคงไม่ตาย จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากอะไร ตนรักน้องชายคนนี้มาก เพราะตนห่างจากน้อง 7 ปี ก็เลี้ยงดูน้องชายมาตั้งแต่เล็ก ป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม ดูแลน้องเป็นอย่างดี รอเฝ้าดูวันที่น้องเติบโตจนได้ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์มีเงินเดือนก็จะส่งมาเลี้ยงดูพ่อแม่ ปลายปีนี้น้องบอกจะไปดูรถยนต์และซื้อคอนโดฯ เพราะล่าสุดที่เจอน้องเมื่อเมษาฯ 63 น้องก็บอกหากมีรถส่วนตัวก็คงไม่ต้องลำบากขึ้นรถทัวร์ แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำความฝนของตน ก็ต้องมาเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีน.