ผบ.เรือนจำกลางโคราช ยืนยันหญิงที่เพิ่งพ้นโทษแพร่เชื้อจนปิดหมู่บ้านที่ อ.เสิงสาง ไม่ได้ติดเชื้อจากเรือนจำ แต่ติดจากลูกชายที่เดินทางจาก กทม.มารับ เตรียมชง สสจ.แจ้งความเอาผิดลูกชายที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ

วันที่ 8 ก.ค. กรณีอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา สั่งปิดหมู่บ้านโป่งคอก หมู่ที่ 14 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง ภายหลังจากที่ตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในหมู่บ้าน จำนวน 3 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 36 ราย โดยเกี่ยวข้องกับหญิงที่เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำแห่งหนึ่ง เดินทางกลับมาพักที่หมู่บ้าน ซึ่งมีบุตรชายที่เพิ่งกลับมาจากกรุงเทพมหานคร ขับรถมาส่ง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในพื้นที่ทราบ ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2564 บุตรชายโทรศัพท์แจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 และได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนาม ที่กรุงเทพฯ แต่หญิงที่เพิ่งพ้นโทษไม่ได้กักตัว โดยมีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับ เนื่องจากเพิ่งพ้นโทษกลับมา รวมถึงยังมีการลงแขกแรงงานเก็บมันสำปะหลังด้วย ก่อนที่จะมาตรวจพบติดเชื้อในภายหลัง ทำให้ทางอำเภอเสิงสางต้องสั่งปิดหมู่บ้าน กักตัวชาวบ้านกว่า 160 คน 68 ครัวเรือนให้อยู่แต่ในพื้นที่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ที่เรือนจำกลางนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายแพทย์สมภพ สังคุตแก้ว ผบ.เรือนจำกลางนครราชสีมา ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า จากข่าวที่ออกไปตามสื่อต่างๆ ว่ามีหญิงที่เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำแห่งหนึ่ง ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วนำไปแพร่เชื้อในพื้นที่ อ.เสิงสางนั้น ทางเรือนจำกลางนครราชสีมา ได้มีการตรวจสอบแล้วว่า ผู้ต้องขังรายนี้ออกไปจากเรือนจำแห่งนี้จริง แต่ในเรือนจำกลางนครราชสีมา มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ตามมาตรฐานเรือนจำสีขาว จึงมั่นใจได้ว่า ขณะนี้ไม่มีการแพร่ระบาดในเรือนจำแห่งนี้นี้แน่นอน ซึ่งผู้ต้องขังรายนี้ได้รับการลดโทษ และมีการปล่อยตัวก่อนกำหนดในเดือนสิงหาคม 2564 โดยก่อนปล่อยตัวได้นำไปที่สำนักงานคุมประพฤตินครราชสีมา เพื่อที่จะสวมกำไลอีเอ็มก่อนปล่อยตัว แต่ก่อนนั้นทางเรือนจำก็ได้นำผู้ต้องขังรายนี้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล ป.แพทย์ ซึ่งมีหนังสือยืนยันชัดเจนแล้วว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ขณะที่วันปล่อยตัวได้มีลูกชาย ที่เดินทางมาจากกรุงเทพ ขับรถมารับที่สำนักงานคุมประพฤตินครราชสีมา ต่อมาภายหลังลูกชายตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 และได้โทรศัพท์มาแจ้งให้แม่ทราบแล้วลูกชายจะถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามในกรุงเทพมหานคร แต่หญิงที่เพิ่งพ้นโทษก็ยังไม่ได้กักตัวเอง ยังไปจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ และลงแขกเก็บมันสำปะหลัง ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนมาก

...

ดังนั้น จึงขอยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ได้ติดเชื้อไปจากเรือนจำกลางนครราชสีมาแน่นอน จึงขอให้ญาติผู้ต้องขังมั่นใจได้ว่า ผู้ต้องขังทุกคนที่อยู่ภายในเรือนจำกลางนครราชสีมา และเรือนจำอื่นๆ จะปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แน่นอน

ส่วนลูกชายที่นำเชื้อมาติดแม่ที่เป็นหญิงเพิ่งพ้นโทษไปนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อแจ้งความเอาผิดแล้ว หลังจากที่ตรวจพบว่าเดินทางมาจากกรุงเทพ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง แต่ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทราบก่อน จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการปิดหมู่บ้าน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากอยู่ในขณะนี้.