เมียแรงงานไทยที่โดนระเบิดตายในอิสราเอล เผยสามีเพิ่งไปได้แค่ 3 วัน และเกิดเหตุขณะกำลังวิดีโอคอลคุยกันพอดี ขณะหลายหน่วยงาน รุดเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมแจงสิทธิประโยชน์ ครอบครัวอยากได้ศพกลับมาไทย
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.64 นางลัดดา อุปสินธุ์ แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางณคประภา บำรุงสุข จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ นายประธาน ถาวร ประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์, น.ส.นงลักษณ์ วาทหงส์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ นายสิทธิชัย สุดสวาท ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ และนายนนทวัฒน์ ประภาลัย ปลัดอำเภอลำปลายมาศ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของ นายสิขรินทร์ สงำรัมย์ หรือลิป อายุ 23 ปี ชาวบ้าน บ้านกระทิง ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่ไปทำงานประเทศอิสราเอล และเป็นหนึ่งใน 2 แรงงานไทย ที่ถูกระเบิดเสียชีวิตจากเหตุสู้รบกันของอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่เขตเอชโคล ประเทศอิสราเอล ตามที่ได้มีการรายงานข่าวนั้น
โดยหน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิต ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับการเยียวยาช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล อย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านระบบรัฐจัดส่ง ขณะที่ทางครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิต ต่างก็ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนายสิขรินทร์ เพิ่งจะไปทำงานต่างประเทศเป็นครั้งแรก และหลังจากเดินทางไปถึงกักตัวครบ 14 วัน ก็เพิ่งเริ่มทำงานได้แค่ 3 วัน ก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะ น.ส.อรทัย กองมะเริง อายุ 21 ปี ภรรยานายสิขรินทร์ ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีไปแบบกะทันหัน กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งได้มีญาติพี่น้องมาคอยปลอบให้กำลังใจ ท่ามกลางความเศร้าโศก
...
น.ส.อรทัย เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วง 6 โมงเย็นของวานนี้ (18 พ.ค.) ตามเวลาในประเทศไทย ส่วนเวลาที่อิสราเอลก็ประมาณบ่ายสองโมงเย็น สามีได้โทรวิดีโอคอลมาหา ก็ได้ไถ่ถามถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น ก็ถามสามีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ยินเสียงตอบมีแค่เสียงเหมือนกับสามีถือโทรศัพท์วิ่งหนี จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเหมือนสามีล้มลง แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ ตนตกใจมากก็พยายามถามสามีผ่านวิดีโอคอลว่า "เกิดอะไรขึ้น เป็นยังไงบ้าง" แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ
ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าว ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเหมือนคนที่เข้าไปช่วยสามีตอบกลับมาว่า สามีโดนระเบิดกำลังจะพาส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นรู้สึกช็อกทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทั้งที่สามีเพิ่งจะทำงานได้แค่ 3 วัน และเสียใจมากที่สามีจากไปเร็วแบบนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะไม่ให้สามีไปทำงานที่ต่างประเทศ ยอมทำงานหากินอยู่ที่บ้าน แม้จะลำบากก็ไม่ต้องเสียสามีไปแบบนี้ และหากสามีรับรู้ก็อยากจะบอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงจะดูแลลูกให้เป็นอย่างดี
ด้าน แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้ร่วมกันมาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของแรงงานที่เสียชีวิต พร้อมชี้แจงถึงรายละเอียดการเยียวยา และสิทธิประโยชน์ ที่จะได้รับ อาทิ จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เป็นค่าจัดการงานศพ จำนวน 40,000 บาท, ค่าทำศพจากประกันสังคมอีก 50,000 บาท บวกกันเงินสะสมอีกจำนวนหนึ่ง
นางลัดดา กล่าวด้วยว่า ส่วนสิทธิประโยชน์ และเงินจากกองทุนผู้ประสบภัยสงคราม ของทางฝั่งประเทศอิสราเอล ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการติดต่อประสานขอรับการช่วยเหลือให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในลำดับต่อไป กรณีที่ทางครอบครัวต้องการอยากจะให้รัฐช่วยเหลือ เรื่องการนำศพแรงงานที่ผู้เสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยไม่อยากได้แค่กระดูกกลับมานั้น ก็จะได้ติดต่อประสานงานกับทางกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตร้องขอต่อไป.
...