โควิด-19 จ.อุดรฯ ดับรายแรก เป็นหนุ่มวัย 24 พิการ และมีโรคประจำตัว ส่งให้ยอดสะสมทั้งจังหวัดทะลุ 307 รายแล้ว จังหวัดออกมาตรการเพิ่มผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงสูง อีก 5 จังหวัดต้องกักตัว 14 วัน ขณะที่ผู้ว่าฯ เตรียมเตียงสนามไว้เพิ่มอีก 500 เตียง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 เม.ย.64 นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว รองสาธารณสุข จ.อุดรธานี และ นพ.สุมน ตั้งสุนทรวิรัตน์ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี ฝ่ายการแพทย์ ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 จ.อุดรธานี ผ่านโปรแกรมซูม ลดการรวมกลุ่ม โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย สะสม 307 ราย กลับบ้าน 26 ราย รักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี 105 ราย, รพ.ค่ายประจักษ์ฯ 9 ราย, รพ.กรุงเทพอุดร 10 ราย, รพ.ชุมชน 20 อำเภอ 94 ราย และศูนย์แคร์อุดร หรือ รพ.สนาม 51 ราย
นายอุเทน หาแก้ว รองสาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 294 เพศชาย อายุ 24 ปี ทำงานในห้องอาหารโรงแรมบ้านเชียง เป็นผู้พิการมีโรคประจำตัว “เนื้องอกของหลอดน้ำเหลืองที่เอวแต่กำเนิด" (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง) เป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แต่ขาดการรักษามากว่า 2 ปี วันที่ 21 เม.ย. มีอาการชาที่ขาหนีบข้างซ้ายและบวมแดง วันต่อมาถ่ายเหลว อาเจียน และมีไข้ เช้าวันที่ 24 เม.ย. มีอาการหอบ เหนื่อย ไข้สูง นำตัวส่ง รพ.หนองวัวซอ ส่งต่อ รพ.ศูนย์อุดรธานี และเสียชีวิต 21.45 น. จากขาซ้ายติดเชื้อ ลามเข้ากระแสโลหิต มีอาการช็อก เชื้อโควิด-19 ที่ตรวจพบเป็นโรคร่วม ไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต
“ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากสถานบันเทิงลดลง คลัสเตอร์นี้น่าจะคุมได้ ขณะการแพร่เชื้อมีอยู่ในครอบครัว คนใกล้ชิด เพื่อนร่วมงาน และปัจจัยเสี่ยงที่จากเดินทางด้วยรถตู้ร่วมกันไปร่วมงานบวช งานบุญร้อยวัน และรถน้ำดำหัว เราจึงต้องคุมให้อยู่ ไม่ให้แพร่ออกมาเป็นกลุ่มก้อน บริเวณตลาด ที่ทำงาน ร้านอาหาร หรือสถานที่ต่างๆ ด้วยช่วยกันใช้มาตรการส่วนบุคคล WFH. งดกิจกรรมรวมกลุ่ม สังสรรค์ งานประเพณี งดรับประทานอาหารร่วมกับคนอื่น”
...
นายอุเทน กล่าวต่อว่า อุดรธานีได้ออกมาตรการเพิ่มเติม ผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง นอกจากพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด จะเพิ่มขึ้นอีก 5 จังหวัด คือ เพชรบุรี, พระนครศรีอยุธยา, มหาสารคาม, สุราษฎร์ธานี และเชียงราย จะต้องไปรายงานตัวกับกำนัน-ผญบ.-อสม.-รพ.สต. และ รพ.ใกล้บ้าน ลงทะเบียนในโปรแกรม COVID-19 WATCHOUT และกักตัวที่บ้าน 14 วัน ยกเว้นผู้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม และขอให้ไปตรวจหาเชื้อแบบ (rapid test) ที่โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาในผู้เดินทางมาในหมู่บ้านจะมารายงานตัวกันมาก มีปัญหาในเขตเทศบาลนครอุดรธานีมารายงานตัวน้อย
ด้าน นพ.สุมน ตั้งสุนทรวิรัตน์ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี ฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยชาย 44 ปี ที่อาการหนักในห้องไอซียู วันนี้อาการมีแนวโน้มดีขึ้น โดยแพทย์ไม่ได้ใช้ยากระตุ้น เป็นการให้ออกซิเจทางท่อเท่านั้น ขณะที่อาการของ พญ.ฤทัย วรรธนวินิจ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี อาการเป็นปกติ สำหรับการตรวจรักษาผู้ป่วยจะมีการปรับแนวทาง ถ้าผู้ที่ติดเชื้อไม่มีอาการ จะให้อยู่ในความดูแลของแพทย์ 10 วัน จากนั้นให้กลับไปกักตัวที่บ้าน 14 วัน ถ้าผู้ติดเชื้อมีอาการเพียงเล็กน้อย ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างน้อย 14 วัน
ขณะที่ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า อุดรฯ บริหารเตียงผู้ป่วยทั้งจังหวัด รพ.ศูนย์อุดรธานี และ รพ.ชุมชน เตรียมเตียงไว้ 477 เตียง ยังสามารถเสริมได้อีก ขณะนี้เรายังมีเตียงเหลือ “ศูนย์แคร์อุดรธานี” หรือ รพ.สนาม ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 436 เตียง ตอนเย็นๆ ผู้ติดเชื้อมีพื้นที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ รพ.สนามในนิคมอุตสาหกรรม เตรียมพื้นที่ไว้อีก 500 เตียง ทั้งนี้สถานที่กักตัวของบุคลากรทางการแพทย์ที่รับอนุเคราะห์จากโรงแรมวีธรา ขณะนี้ใกล้จะเต็มแล้ว กำลังหาพื้นที่เพิ่มเติม
“ผมประชุมนายอำเภอไปแล้ว เรื่องของงานบุญประเพณี ที่อุดรธานีไม่ได้สั่งห้าม แต่จะต้องมีมาตรการให้ดี อย่างช่วงนี้จะมีบุญบั้งไฟ งานบุญบั้นไฟล้านที่ อ.เพ็ญ หรือที่อื่นๆ ชาวบ้านก็เคยจัดมาทุกปี ที่ไหนที่พูดคุยกันแล้วไม่จัดไม่ได้ เพราะมีความเชื่อของชุมชนนั้นๆ ก็ต้องให้ลดจำนวนบั้งไฟลง อย่างเคยจุดกันเป็นร้อยลูก ก็ให้เหลือ 4-5 บั้ง คนที่ไปร่วมงานก็ไม่เกิน 50 คน ก็จัดตัวแทนหมู่บ้าน ตัวแทนคุ้มมาร่วมงาน ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมมาตรการส่วนบุคคลก็ต้องคุมเข้ม สำหรับปรับไม่สวมหน้ากาก เราเองไม่อยากจับ แต่เราอยากให้ท่านใส่ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปแนะนำ ยังไม่มีการจับปรับรายแรก” ผู้ว่าฯอุดร กล่าว.