ชาวบุรีรัมย์ แสดงความจงรักภักดี ลงขันร่วมสร้างฉัตร 9 ชั้น ยอดทองคำเปลว 360 ต้น ถวายพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 สุดสวยงาม ประชาชนแห่ชมแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัด 

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำประชาชนชาวบุรีรัมย์ ร่วมกันบริจาค และร่วมกันสร้างติดตั้งไฟฉัตร 9 ชั้น 360 ต้น ถวายบริเวณวงเวียนพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันจักรี ซึ่งแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเป็นทัศนียภาพใหม่ และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.บุรีรัมย์ โดยประชาชนชาว จ.บุรีรัมย์ และผู้มาเยี่ยมเยือนต่างจอดรถ ลงมาชื่นชมและถ่ายภาพกันอย่างคึกคัก

โดย น.ส.ชิดชนก ชิดชอบ หรือ "น้องแนน" บุตรสาว นายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะผู้ออกแบบและดำเนินการ กล่าวถึงความร่วมมือมือของพี่น้องประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในครั้งนี้ว่า แนวความคิดการออกแบบไฟฉัตร 9 ชั้น เสา 360 ต้น เกิดขึ้นจากแนวคิดในการจัดการพื้นที่บริเวณรอบอนุสาวรีย์ฯ เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินการ 2 เดือน

...

 "เดิมไฟบริเวณรอบอนุสาวรีย์ฯมีเป็นจำนวนมาก ดูแล้วรกและมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนมากขึ้นทุกๆปี จึงมีความคิดที่จะพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ ประกอบกับฉัตรที่ถวายพระบนบริเวณเขากระโดง ซึ่งฉัตรหมายถึงร่มที่สื่อความหมายถึงทำให้บ้านเมืองร่มเย็น คนอยู่สบายดีมีสุข และสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของ จ.บุรีรัมย์ ที่มีรัชกาลที่ 1 กษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ ขี่ช้างในกองทัพและมีคนถือฉัตรขาว 9 ชั้น จึงได้เกิดเป็นแนวคิดในการทำไฟฉัตร 9 ชั้น จำนวน 360 ต้น ที่สื่อความหมายเหมือนกับดูไปได้โดยรอบ ประกอบกับการใช้ลวดลายที่สื่อถึงในยุคนั้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ใน จ.บุรีรัมย์ ได้มีส่วนร่วม เข้ามาปิดทองบริเวณรอบฐาน พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ผู้ก่อตั้งเมือง ซึ่งขณะนี้ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก" น.ส.ชิดชนก กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับชาว จ.บุรีรัมย์ ต่างเรียกตัวเองเป็นลูกหลานรัชกาลที่ 1 เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ยกทัพไปปราบกบฏเขมร สมัยนั้นเรียกว่า "เมืองแปะ" ส่งผลให้เกิดชุมชนและมีผู้คนเข้ามาพักอาศัยทำมาหากิน จนกลายเป็น จ.บุรีรัมย์ ในปัจจุบัน

สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้ นายชัย ชิดชอบ สมัยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้มีส่วนร่วมกับ จ.บุรีรัมย์ และ กรมศิลปากร นำเสนอโครงการให้รัฐบาลจัดสร้าง โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงเป็นองค์ประธานเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อครั้งเป็นพระบรมโอรสาธิราช