คู่กรณีหวยอลเวง 12 ล้านบาท “ป้าไพ-ป้ารัตน์” เผชิญหน้า เลี่ยงสาบานต่อหน้าองค์พระประธานวัดพระธาตุเชิงชุม เปลี่ยนเป็นกล่าวคำอธิษฐานแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง หลังมีพระทักท้วงไม่ควรสาปแช่งกันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตำรวจรับคำร้องทุกข์เป็นคดีอาญาแล้ว ชี้เข้าข่ายความผิดข้อหายักยอกทรัพย์ สอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ตกลงซื้อขายลอตเตอรี่ไปแล้ว 3 ปาก เตรียมเรียกป้ารัตน์ แม่ค้าขายลอตเตอรี่มาแจ้งข้อกล่าวหา เร่งสืบสวนหาต้นขั้วลอตเตอรี่ พร้อมรอข้อมูลจากกองสลากฯพิสูจน์ความจริง
ส่อเค้าจะกลายเป็นมหากาพย์คดีหวยอลเวงภาคสอง กรณีนางไพมณี หรือป้าไพ พลราชมอายุ 57 ปี อาชีพค้าขายและนางรำจิตอาสา เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสกลนคร อ้างว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 มี.ค.64 หมายเลข 835538 จำนวน2ใบมูลค่า 12 ล้านบาท ที่เขียนชื่อสลักหลังจองไว้กับนางรัตนา หรือป้ารัตน์ ภูละคร อายุ 58 ปี แม่ค้าลอตเตอรี่ แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน นางรัตนากลับเอาไปขายให้คนอื่น ตำรวจทำเรื่องไปยังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้อายัดลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบ พร้อมขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านนางรัตนา ไม่พบลอตเตอรี่รางวัลที่1ทั้ง 2 ใบ พบเพียงใบที่ไม่ถูกรางวัล 41 ใบและสมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า ยึดไปตรวจสอบความเชื่อมโยงประกอบสำนวนคดี ขณะที่นางไพมณีกับนางรัตนา คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้นัดกันมาสาบานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง
ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมืองสกลนคร เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 มี.ค. นางรัตนาภูละคร แม่ค้าลอตเตอรี่เดินทางมาถึงวัดเพื่อรอพิธีสาบาน โดยแต่งกายด้วยชุดสีขาว ต่อมานางไพมณี พลราชม คู่กรณีแต่งชุดนางรำภูไทที่สวมใส่ในพิธีรำบวงสรวงที่พระธาตุนารายณ์เจงเวงวันที่ตกลงซื้อลอตเตอรี่24 ก.พ. ก่อนทำพิธีมีเจ้าหน้าที่ของวัดพระธาตุเชิงชุมเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกับทั้งสองคนว่า ห้ามสาปแช่งหรือพูดสิ่งที่ไม่ดีต่อกันขณะทำพิธีต่อหน้าหลวงพ่อพระองค์แสน องค์พระประธานในพระอุโบสถวัดพระธาตุเชิงชุมซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวสกลนคร
...
จากนั้นเวลา 09.00 น. ทั้ง 2 คนเข้าไปนั่งคุกเข่าถือพานดอกไม้หน้าหลวงพ่อพระองค์แสน นางไพมณีกล่าวก่อนว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้มาสาบาน แต่มาเพื่อหาลอตเตอรี่ที่ซื้อไปว่าอยู่ที่ไหน ให้คนที่ซื้อไปเอามาคืน ถ้าไม่ถูกรางวัลจะได้ยอมรับความจริง ถ้าถูกรางวัลให้มาตกลงกัน ไม่เคยคิดที่จะมาสาบานหรือสาปแช่งให้ต้องมีคนตายภายใน 5 วัน 7 วัน ด้านนางรัตนากล่าวว่า วันนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ไป ไม่ได้เอาไว้ที่ญาติพี่น้องไม่รู้ว่าลอตเตอรี่ใบนั้นเป็นเลขอะไร และไม่เห็นตอนที่นางไพมณีเขียนชื่อด้านหลังลอตเตอรี่ แต่ได้ยื่นปากกาให้จริง เมื่อเขาจองแล้วแต่ไม่มารับจึงจำเป็นต้องขายออกไป
หลังกล่าวคำอธิษฐานเสร็จทั้ง 2 คนออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยกัน นางไพมณีกล่าวว่ามาไหว้พระ และแสดงความบริสุทธิ์ใจของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้เป็นการสาบานเพราะการสาบานจะต้องสาปแช่งกัน ตนไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น ด้านนางรัตนากล่าวว่า มาตามคำท้าของนางไพมณีแต่นางไพมณีไม่สาบาน รู้สึกเสียใจและได้พูดกล่าวแสดงความบริสุทธิ์ต่อหน้าองค์พระประธานวัดพระธาตุเชิงชุมแล้ว น้อยใจที่นางไพมณีไปแจ้งความ ทั้งที่พูดคุยกันได้ก็น่าจะมาพูดคุยกันก่อน ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ตนได้รับความเสียหาย ทั้งโลกมองว่าตนยักยอกลอตเตอรี่ไปแล้ว ระหว่างยืนให้สัมภาษณ์อยู่ด้วยกัน ทั้งคู่พูดจาลักษณะโต้เถียงกัน นางไพมณีจึงเดินผละออกมาจากวงสัมภาษณ์พร้อมบอกว่าไม่อยากให้มีการทะเลาะกันหรือตอบโต้กัน
นางไพมณีกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นที่ท้านางรัตนามาสาบานแล้วตนไม่สาบาน แต่กลับพูดกล่าวคำอธิษฐานแทน เนื่องจากมีพระสงฆ์ที่นับถือให้คำแนะนำว่าไม่อยากให้มีการสาปแช่งกัน เพราะจะเป็นกรรมเวรต่อกัน และวัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนกราบไหว้บูชาไม่เหมาะสมที่จะเป็นสถานที่สาปแช่งกัน อีกทั้งตอนเช้าที่มาถึงวัดก็มีลูกศิษย์วัดให้คำแนะนำเช่นเดียวกัน ตนจึงไม่อยากสาบาน หากนางรัตนาอยากนัดตนไปสาบานใหม่ก็ยินดี ไม่ได้โกรธ แต่เท่าที่เห็นท่าทีของคู่กรณีวันนี้ทำให้ไม่สบายใจ เพราะนางรัตนาพาญาติมาหลายคนคอยพูดจากดดัน เหมือนนางรัตนาไม่ได้ทำออกมาจากใจจริง ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ต่อมาเวลา 11.00 น. นางไพมณีพาพยานอีก 2 ปากคือนางเพ็ญศรี ไพศาล อายุ 60 ปี และนางมุกดา วงศ์ธันยพร อายุ 44 ปี ทั้งคู่เป็นนางรำที่ร่วมรำบวงสรวงองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง และอยู่ในเหตุการณ์ขณะมีการตกลงซื้อขายลอตเตอรี่กัน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ใช้เวลานานกว่า 3 ชม.แล้วเสร็จ ทั้งคู่กล่าวว่า ให้การไปตามข้อเท็จจริงที่เห็นเหตุการณ์ ด้านแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจมุ่งเน้นไปที่ต้นตอที่มาของลอตเตอรี่ที่นางรัตนารับมาขายว่ามีแหล่งที่มาจากที่ใด จากคำให้การของนางรัตนาอ้างว่าได้มาจากหลายๆที่ ต้องสืบสวนต่อไปว่าเป็นที่ใดบ้างเพื่อตรวจสอบไปให้ถึงต้นขั้วลอตเตอรี่ใบที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 นอกจากนี้ยังต้องรอข้อมูลจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อาจบ่งชี้ถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดได้
พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จ.สกลนคร เผยว่า ตอนนี้ตำรวจได้รับคำร้องทุกข์ของนางไพมณีเป็นคดีอาญาแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาคือนางรัตนา แม่ค้าลอตเตอรี่มีพฤติการณ์เข้าข่ายยักยอกทรัพย์ จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ล่าสุดพนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานฝ่ายนางไพมณีไปแล้ว 3 ปาก คือ น.ส.กัณฑ์ทิพย์เนาว์ ศรีสอน นางเพ็ญศรี ไพศาล และนางมุกดา วงศ์ธันยพร ทั้งหมดเป็นนางรำที่อยู่ในเหตุการณ์ อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับนางไพมณีด้วยตัวเอง นางไพมณีระบุว่าประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยไม่อยากดำเนินคดี แต่ตำรวจแจ้งให้ทราบตามขั้นตอนของกฎหมายว่าจะต้องดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายเรียกนางรัตนาก่อน ถึงจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ นางไพมณีก็รับทราบและเข้าใจดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
...