แก๊งวัยรุ่นนครพนม รวมตัวทำธุรกิจ "กัญชาออนไลน์" แบ่งใส่ถุงละ 100 กรัม ทำแพ็กเกจ ตีตรา ซีลสุญญากาศอย่างดี ส่งพัสดุผ่านบริษัทเอกชน ขายทั่วไทย เชื่อทำมานาน 

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมชั้น 5 ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.จ.จว.นครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผกก.สืบสวนนครพนม พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ธาตุพนม ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน ในพื้นที่โรงพักทั้ง 12 อำเภอ ร่วมกันแถลงข่าวตามมาตรการปราบปรามยาเสพติด ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง และยุทธการนาคาพิทักษ์ ของตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน เชิงรุก

สามารถจับกุม นายวิทยา ริยะบุตร อายุ 30 ปี ชาวบ้านน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ตรวจยึดยาบ้า ได้จำนวน 73,260 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 1 กรัม ขณะไปรอรับยาบ้ามาจากขบวนการค้ายาบ้าชาวลาว ในพื้นที่ริมฝั่งโขง เขตพื้นที่ ชาวบ้านน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ผู้ต้องหาสารภาพว่า รับจ้างจากเครือข่ายในพื้นที่นำยาบ้ามาพักรอการส่งต่อ

พร้อมกันนี้ ได้จับกุมแก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติเป็นเยาวชนชาย จำนวน 1 ราย ตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 4,282 เม็ด อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล รวมมูลค่ายาบ้าทั้งหมด เป็นเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

...

นอกจากนี้ ยังจับกุมขบวนการค้ากัญชา เป็นเยาวชนที่มีการลักลอบขายกัญชาแพ็กเกจรูปแบบใหม่ ผ่านช่องทางออนไลน์ และมีการซีลบรรจุถุงพลาสติกสุญญากาศ เพื่อป้องกันกลิ่น และนำส่งให้ลูกค้าผ่านระบบขนส่งพัสดุเอกชน ขยายผลตรวจยึดของกลางกัญชาอัดแห้งบรรจุกล่องพัสดุ ได้จำนวนประมาณ 30 กล่อง น้ำหนักกล่องละ 100 กรัม ราคาซื้อขายกล่องละ 1,500 – 2,000 บาท มีตราสัญลักษณ์แพ็กเกจ ชื่อ Green Paradise สีดำ รวมน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม มูลค่ารวมประมาณ 50,000 บาท ถือเป็นการส่งกัญชารูปแบบใหม่ ซึ่งทางตำรวจจะต้องมีมาตรการ ตรวจสอบดูแลร่วมกับบริษัทเอกชน ในการป้องกันปราบปราบจับกุม ขยายผล ถึงขบวนการผลิต และผู้สั่งซื้อทั่วประเทศ

พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้พื้นที่ชายแดน จ.นครพนม มีมาตรการเข้มงวดในการสกัดกั้นปราบปรามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ รวมถึงเครือข่ายทุกรูปแบบ โดยร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ตามมาตรการปราบปรามยาเสพติด ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง และยุทธการนาคาพิทักษ์ ของตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อเป็นการปราบปราม

"ในช่วงนี้มีการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ เข้ามาทางภาคอีสานมากขึ้น ทำให้มีการตรวจยึดจับกุมลอตใหญ่อย่างต่อเนื่อง จากสถิติการจับกุมในช่วง 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา มีการตรวจยึดจับกุมยาเสพติด ผู้ต้องหา 1,059 คน ยาบ้าจำนวนประมาณ 7.4 ล้านเม็ด กัญชาประมาณ 2.6 ตัน เฮโรอีนจำนวน 257 กิโลกรัม และยาไอซ์ประมาณ 2,300 กรัม รวมมูลค่าการจับกุมทั้งหมด เป็นเงินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท"

พล.ต.ต.ธนชาติ กล่าวอีกว่า ในการตรวจยึดจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ มีเคสสำคัญ คือการปราบปรามจับกุม ขบวนการค้ากัญชาผ่านระบบออนไลน์ และมีการส่งผ่านพัสดุบริษัทขนส่งเอกชน ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ โดยสามารถจับกุม นายชัยวิวัตร์ แสงศาลา อายุ 37 ปี นายพักตร์ยศ สุวะศรี อายุ 22 ปี ร่วมกับกลุ่มเพื่อนเป็นเยาวชนอีก 5 คน อายุ 17-18 ปี หลังมีการสืบสวนขยายผล พบว่า นายชัยวิวัตร์ เป็นหัวหน้าแก๊ง ทำธุรกิจส่งกัญชาอัดแห้งขาย ทางพัสดุขนส่งเอกชน ด้วยการซีลถุงสุญญากาศ บรรจุส่งขายให้ลูกค้าทั่วไทย น้ำหนักประมาณกล่องละ 100 กรัม ส่วนราคาขาย ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งถือเป็นการส่งขายยาเสพติดรูปแบบใหม่ จะต้องมีการขยายผลติดตามจับกุมทั้งผู้ส่ง และผู้ค้าปลายทาง เชื่อว่ามีการรับซื้อมาบรรจุแบ่งขายเพื่อเลี่ยงการจับกุม สะดวกในการจัดส่ง โดยกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดพยายามหาช่องทางจำหน่าย

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติแก๊งวัยรุ่นดังกล่าว มีประวัติเสพยา ติดยา และหันไปร่วมกันหาทางส่งยาเสพติดขายสร้างรายได้ ซึ่งจะมีมาตรการในการดูแลสกัดกั้นปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง