พบอีกรายที่บุรีรัมย์ กรมบัญชีกลางเรียกเงินเบี้ยคนชราคืน ยายวัย 89 ปี รับบำเหน็จพิเศษลูกชายเป็น ตชด.เสียชีวิตในหน้าที่ ต้องจ่ายคืน 1.2 แสน ตกลงผ่อนชำระเดือนละ 5 พัน ลูกสาวยายบอก "เงินหลวงคือเงินหลวง ต้องคืน"
วันที่ 27 ม.ค. กรณีกรมบัญชีกลางเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุยายวัย 89 ปี ที่ จ.บุรีรัมย์ มีการร้องขอความเป็นธรรม จนเป็นข่าวดัง
ล่าสุด พบอีก 1 ราย ชื่อนางทิม สังข์สนิท อายุ 89 ปี บ้านเลขที่ 27 หมู่ 8 ต.ลำไทรโยง อ.นางรอง อยู่ในข่ายที่ต้องเรียกเงินคืน จำนวนเงิน 120,1800 บาท เนื่องจาก เมื่อปี 2535 ร.ต.อ.สนาม สังข์สนิท ลูกชายคนที่ 6 รับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)ที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ และทายาทได้รับเงินก้อนแรก 40,000 บาท
ในเวลาต่อมาเมื่อปี 2540 ได้รับเงินบำนาญพิเศษ เดือนละ 1,800 บาท และปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 5,000 6,000 9,000 และ 10,000 บาท เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา
นางนัฐฐา โยธาพล ปลัด อบต. ลำไทรโยง ออกมากล่าวกรณีนี้ว่า หลังจากได้รับข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง กรณีมีผู้ได้รับเงินสวัสดิการซ้ำซ้อน ทาง อบต.ต้องเรียกเก็บเงินตามหน้าที่เพื่อไม่ให้อยู่ในข่ายการละเว้น แต่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน โดยสรุป ให้นางทิม ผ่อนชำระให้กับ อบต.เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย โดยญาติและตัวนางทิม พอใจ จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ อบต. ขณะนี้ นางทิม ได้ผ่อนชำระมาได้รวม 6 เดือนแล้ว
ด้านนางประมวล สังข์สนิท อายุ 49 ปี ลูกสาวนางทิม กล่าวว่า ตอนแรกที่ไปยื่นขอรับเงินเบี้ยคนชรา เพราะคิดว่าเงินบำนาญลูกชาย กับเบี้ยคนชรา เป็นเงินคนละส่วนกัน
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาอธิบาย ทางครอบครัวก็พร้อมจ่ายคืนให้ แต่ขอให้ยายเหลือเงินพอได้ใช้จ่าย จึงตกลงจ่ายให้ อบต.เดือนละ 5,000 บาท โดยทางครอบครัวไม่ติดใจ "เพราะเงินหลวงก็คือเงินหลวง เราต้องคืน" นางประมวล กล่าว
...