แม่สุดเศร้า พบลูกชายผูกคอดับในห้องครัว พร้อมเขียนจดหมายลาตาย "ผมได้ทุบศาลทิ้งจะขอดูแลทุกคนแทน พระวัดไหนเอาวิญญาณไปไม่ได้" และมีบทสวดภาษาบาลี คาดเกิดจากป่วยซึมเศร้า ภรรยาแยกทาง ประกอบกับพิษโควิด-19 ทำให้ไม่มีคนมารับจ้างไปทำงาน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 พ.ค.63 พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 จ.อุดรธานี ว่ามีเหตุชายอายุ 34 ปี ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องครัวหลังบ้านตัวเอง เลขที่ 41 ม.4 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูชั้นเดียวพบศพ นายพิศาล คำสิงห์นอก อายุ 34 ปี สวมเสื้อยืดคอโปโลแขนสั้น สีม่วง กางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า ใช้เชือกไนล่อนสีแดงผูกคอตัวเองโยงกับขื่อหลังคาห้องครัว เสียชีวิตมาประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากการตรวจสอบสภาพศพและรอบบริเวณห้องครัว ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิตจากการผูกคอและขาดอากาศหายใจ ที่ตะกร้าใส่ผ้าที่ยังไม่ได้ซัก พบสมุดจดหมายเขียนด้วยลายมือผู้ตายมีใจความว่า

...

"เจ้าที่ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เพราะผมทุบศาลทิ้ง ผมจะอยู่ที่นี่แทน ผมจะดูแลทุกคนเอง พระวัดไหนก็เอาวิญญาณผมไปไม่ได้" พร้อมกับเขียนบทสวดมนต์ภาษาบาลี และเบอร์โทรศัพท์ของแม่ไว้ด้วย โดยญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนา โดยนางแสงจันทร์ คำสิงห์นอก แม่ผู้ตาย ได้จุดธูป 1 ดอกเพื่อเชิญวิญญาณลูกชายออกจากบ้านไปอยู่ที่วัดกับพ่อ และขอดวงวิญญาณลูกชายหยุดอาฆาตพ่อแม่และญาติพี่น้อง รวมทั้งคนที่เคยล่วงเกินเมื่อครั้งมีชีวิต และขอให้ดวงวิญญาณลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ก่อนผู้เป็นแม่จะปักธูปไว้ที่หน้าประตูห้องครัว

สอบสวน นางแสงจันทร์ คำสิงห์นอก อายุ 60 ปี แม่ของผู้ตายให้การว่า ตนมีสามีสองคน มีลูกทั้งหมดรวม 8 คน ผู้ตายเป็นลูกคนที่ 3 ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ใครมารับไปทำงานอะไรก็ไม่เคยเกี่ยง แต่มีนิสัยชอบดื่มเหล้า ทำให้ภรรยาขอแยกทางเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา มิหนำซ้ำเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักทั่วประเทศ ทำให้ไม่มีงานทำอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญไม่มีเงินซื้อเหล้า ชอบมาขอเหล้าที่ร้านขายของชำแม่กินเป็นประจำ ทำให้มีปากเสียงกับแม่ด้วย

ส่วนสาเหตุการจบชีวิตน่าจะมาจากลูกชายไม่มีงานทำไม่มีรายได้ และภรรยาหนีกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้ลูกชายมีอาการซึมเศร้า ส่วนการลงทะเบียนเยียวยาคนจน ตนเองไม่ทราบว่าลูกชายได้ลงทะเบียนไว้หรือไม่ เพราะไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ เห็นแต่ผู้ใหญ่บ้านมาสำรวจเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ถามว่ามาสำรวจเรื่องอะไร

"ถึงแม้ว่าเราแม่ลูกจะไม่ค่อยลงรอยกัน แต่หัวอกคนเป็นแม่ลูกจะชั่วดีอย่างไรแม่ก็รักและเป็นห่วงเสมอ ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดวันนี้ ลูกชายมาขอชงเครื่องดื่มโอวัลตินในร้านกิน และพูดเป็นลางว่า หากผมตายให้เอาไปไว้กับพ่อที่วัด หลังพ่อเสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยไม่คิดว่าลูกชายจะมาคิดสั้นจบชีวิตของตนเองแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาลูกชายชอบพูดว่าอยากตายอยู่เป็นประจำ กระทั่งวันนี้เวลาประมาณ 11.00 น. ตนและสามีใหม่ออกไปซื้อสินค้ามาขายที่ร้าน และจะเอารถกระบะไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แต่อู่ซ่อมรถปิดวันอาทิตย์จึงกลับมาบ้าน ซึ่งหลานสาวที่ไปด้วยกันเห็นลูกชายยืนอยู่ในครัวนานผิดสังเกต ตนจึงเดินมาดูพบว่าลูกชายผูกคอตาย และเขียนจดหมายลาตายไว้ด้วย จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ" ผู้เป็นแม่กล่าว.

...