นมัสการหลวงปู่ ไปที่วัดป่าโนนนิเวศน์ จ.อุดรธานี วัดแห่งนี้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เคยมาปฏิบัติธรรมเผยแผ่พุทธศาสนาอยู่นานถึง 2 พรรษา โดยยังคงเก็บรักษาเครื่องอัฐบริขาร และกุฏิจำลองของท่านเอาไว้

"นมัสการหลวงปู่" สัปดาห์นี้พาเดินทางไปที่วัดป่าโนนนิเวศน์ ถนนอุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หรือ นามตามสมณศักดิ์ว่า พระครูวินัยธรมั่น ภูริทัตฺโต เคยเดินทางมาปฏิบัติธรรมเผยแผ่พุทธศาสนาอยู่นานถึง 2 พรรษา โดยที่วัดแห่งนี้ได้มีการอนุรักษ์พื้นที่ที่เคยเป็นกุฏิของหลวงปู่มั่น จำลองตัวกุฏิไว้เพื่อกราบไว้บูชา เป็นอนุสรณ์สถานให้ระลึกถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ และยังได้ก่อสร้างอาคารวิหารหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ภูมี จิตฺตธฺมโม ที่มีการเก็บรักษาเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่มั่นเอาไว้ในอาคาร


ขณะเดียวกัน UNESCO (ยูเนสโก) ก็ได้ประกาศยกย่องให้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในวาระที่มีชาตกาลครบ 150 ปี ใน พ.ศ.2563 (20 ม.ค.63) เป็นบุคคลสำคัญของโลกประจำวาระปี 2563-2564 สาขาสันติภาพ โดย หลวงปู่มั่น ถือเป็นพระเถรานุเถระสายวิปัสสนากรรมฐาน เดินธุดงค์เกือบตลอดชีวิต มีผู้ปฏิบัติตามจำนวนมากจนเกิดพระป่าสายธรรมยุต ถือเป็นผู้นำกองทัพธรรมอย่างแท้จริง และพุทธศาสนิกชนชาวไทยให้ความเคารพนับถือจวบจนถึงปัจจุบัน

...


พระอธิการ ชวลิต กิจฺจสาโร เจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์ เปิดเผยว่า ในนามศิษยานุศิษย์ คณะสงฆ์ มีความรู้สึกปลื้มปีติ เป็นมหาบุญมหากุศลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหลวงปู่มั่นท่านได้ชื่อว่า เป็นอริยสงฆ์องค์สำคัญที่สุดในยุครัตนโกสินทร์ก็ว่าได้ มีบทบาทสำคัญเป็นแม่ทัพธรรมอย่างแท้จริง มีลูกศิษย์มากมายซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพระอริยสงฆ์ทั้งนั้น โดยทางวัดป่าโนนนิเวศน์ได้ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัด จัดงานชาตกาลครบ 150 ปี หลวงปู่มั่น ก่อนประกาศไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา แต่จะมีงานสำคัญอีกครั้งในวันที่ 31 มกราคม 2563 เป็นงานหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ปางธุดงค์ และหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ซึ่งจะนำงานหล่อรูปเหมือนไปประดิษฐานไว้ในสวนธรรมที่จะจัดทำขึ้นใหม่ และหุ่นขี้ผึ้งจะนำไปไว้ในกุฏิจำลอง

วัดป่าโนนนิเวศน์สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2477 มีเนื้อที่ทั้งหมด 32 ไร่ 2 งาน โดยหลวงปู่มั่น ท่านเคยมาพำนักอยู่ที่นี่เมื่อปี พ.ศ.2482 – 2483 เป็นเวลา 2 พรรษา จากประวัติทราบว่าเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สมภรณ์ ได้เดินทางไปที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ได้นิมนต์หลวงปู่มั่น ให้ท่านเดินทางมาที่อุดรธานีเพื่อโปรดญาติโยมบ้าง หลังจากนั้นหลวงปู่มั่นได้เดินทางไปที่วัดบวรนิเวศวิหารที่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางมาที่อุดรธานี ตามคำกราบเชิญของลูกศิษย์ โดยเลือกวัดป่าโนนนิเวศน์เป็นที่พำนักปฏิบัติธรรม เพราะที่แห่งนี้สมัยก่อนนั้นเป็นป่าทึบหนาแน่น บรรยากาศสงบร่มเย็น และอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก”


พระอธิการ ชวลิต กิจฺจสาโร
เจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์ เปิดเผยอีกว่า จากคำบอกเล่า ในช่วง 2 พรรษา หลวงปู่มั่นฯปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ออกบิณฑบาตโปรดญาติโยม และมีลูกศิษย์จากพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมากราบไหว้หลวงปู่อยู่เป็นประจำ พอถึงเวลาหลวงปู่มั่นออกธุดงค์ปลีกวิเวกไปยังที่อื่น หลวงปู่ภูมี จิตฺตธฺมโม เจ้าอาวาสวัดในขณะนั้น ได้เล็งเห็นว่ากุฏิที่ท่านเคยมาพำนักควรจะอนุรักษ์ไว้ลูกศิษย์ญาติโยมได้กราบไหว้ ระลึกถึงหลักธรรมคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ และได้อนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน ที่ตั้งเป็นพื้นที่จริงเป็นบริเวณจริง แต่ตัวกุฏิที่เป็นไม้ยกพื้น ผุพังไปตามกาลเวลา แต่ได้บูรณะแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือปี พ.ศ.2555

...


เจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของอาคารวิหารหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ภูมี จิตฺตธฺมโม ได้จัดสร้างขึ้นในยุคหลัง สร้างเมื่อปี 2543 เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งเก็บรวบรวมเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่มั่นบางส่วน ครั้งที่ท่านได้มาพำนักที่แห่งนี้ และเก็บรักษาอัฐิธาตุของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน, หลวงปู่ภูมี จิตฺตธฺมโม เอาไว้เพื่อให้ลูกศิษย์พุทธศาสนิกชนเข้ามากราบไหว้บูชา ซึ่งเปิดให้เข้าทุกวันจากเช้าจนถึงเย็น

...


"ขออนุโมทนาบอกบุญท่านทั้งหลาย วันที่ 31 มกราคม 2563 จะเป็นงานหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ปางธุดงค์ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ มีการเตรียมไม้จิกไว้ทำพิธีมหามงคล ระหว่างนี้ญาติโยมสามารถร่วมบูชาแผ่นทอง แท่งทอง เพื่อจัดสร้างรูปหล่อหลวงปู่มั่นฯ ปางธุดงค์ ได้ทุกวัน ได้ที่วัดป่าโนนนิเวศน์” พระอธิการชวลิต กล่าว.