แม่ค้าข้าวเหนียวขอนแก่น หวั่นนายทุนลักลอบนำข้าวเหนียวเวียดนามปลอมปนขายกับข้าวไทย เชื่อหลัง ต.ค.นี้ฤดูกาลข้าวใหม่ออก ปัญหาข้าวแพงจะคลี่คลายลง ไม่ขาดตลาดแบบนี้อีก

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาจำหน่ายข้าวสารเหนียว ภายในตลาดสดเทศบาล1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังพบว่ามีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายสูงสุดในประวัติการณ์ อันมีสาเหตุมาจากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่าน มาจนทำให้ผลผลิตจากเกษตรกรมาสู่ท้องตลาดมีจำนวนน้อย โดยเฉพาะข้าวเหนียวพันธุ์เขี้ยงงู และข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 ที่พบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

นางสำเนียง กุมภีพงษ์ เจ้าของร้านขายข้าว ในตลาดสดเทศบาล1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า แม้ราคาในกลุ่มข้าวสารเหนียวจะแพงขึ้นเมื่อเทียบกันกับเดือนที่ผ่านมา แต่ในพื้นที่ขอนแก่นยังไม่เจอว่าร้านใดขายข้าวเหนียวในราคา 50 ต่อกิโลกรัม ซึ่งที่ร้านก็ยังไม่ขึ้นราคาเช่นกัน ยังคงขายตามราคาของกลไกลทางตลาด ซึ่งราคาจำหน่ายข้าวสารเหนียววันนี้นั้น ประกอบด้วยข้าวเหนียวเชี้ยวงูปลายปี อยู่ที่ กิโลกรัมละ 44 บาท ขณะที่ ข้าวเหนียวเขี้ยวงูคัดพิเศษ กิโลกรัมละ 46 บาท

...

เจ้าของร้านขายข้าว ในตลาดสดเทศบาล1 กล่าวต่อว่า ที่ยังขายราคาเดิมได้ เพราะร้านยังมีข้าวเก่าที่เหลืออยู่ 10 กระสอบ ถ้าขายข้าวเก่าหมด ก็ต้องสั่งข้าวใหม่มาขาย ซึ่งก็ต้องพิจารณาขายในราคาที่เหมาะสมจะขึ้นราคาหรือไม่ยังตอบไม่ได้ เพราะถ้าโรงสียังไม่ขึ้นราคา ทางร้านก็จะยังคงขายราคาเดิมต่อไป ส่วนความแห้งแล้งนั้นบางพื้นที่ไม่แล้ง ก็พอมีข้าว เพราะประเทศไทยเราไม่ได้แล้งไปทุกพื้นที่ เมื่อฝนตกก็พอทำนาได้ ก็จะมีข้าวแต่ผลผลิตก็จะออกมาไม่มากเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา

นางสำเนียง กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กลุ่มพ่อค้าและแม่ค้าขายข้าวกลัวสุด คือ ข้าวปลอมปน โดยเฉพาะกับการนำเอาข้าวเวียดนามมาปนกับข้าวไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าคุณภาพข้าวของเวียดนาม แม้จะมีราคาข้าวที่ถูกกว่าข้าวไทยแต่คุณภาพและความอร่อยสู้ข้าวเหนียวของไทยไม่ได้ ซึ่งถ้ามีการปนข้าวของเวียดนามจริงก็จะส่งผลกระทบต่อข้าวไทยอย่างมาก ที่ผ่านมาทางร้านไม่เคยเจอข้าวเวียดนามปนมา เพราะทางร้านซื้อข้าวจากโรงสีโดยตรงและที่เชื่อได้ จึงได้ข้าวที่มีคุณภาพ

เจ้าของร้านขายข้าว ในตลาดสดเทศบาล 1 กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นเรื่องกักตุนข้าวเปลือกนั้นคงไม่มีใครทำแน่นอน เนื่องจากขณะนี้โรงสีข้าวส่วนใหญ่หาข้าวเปลือกได้ยาก โรงสีบางแห่งต้องปิดตัวไป เพราะไม่มีข้าวที่จะมาสีขายให้พ่อค้าแม่ค้า และยังคงต้องรอข้าวฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง ที่จะทำให้ข้าวไม่ขาดตลาด ทั้งนี้โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าหลังเดือนตุลาคมซึ่งเป็นฤดูกาลข้าวใหม่ สถานการณ์ข้าวของไทยจะคลี่คลายลง.