สุดอำมหิต 4 โจ๋อุดรฯ รุมฆ่าโหดสาวประเภทสอง แล้วราดน้ำมันจุดไฟเผาอำพราง ก่อนย้อนกลับไปดูศพเลยโดนรวบ อ้างสาเหตุโดนด่าไม่เลิก...
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 17 เม.ย. พ.ต.ท. ชลชาต วัชรกิตติ์ รอง ผกก.(สส.) สภ.พิบูลย์รักษ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท. กานต์ ตั้งวิจิตร รอง ผกก.(ป) สภ.พิบูลย์รักษ์ พ.ต.ท. ภานุวัฒน์ วิเศษเลิศ พงส. (สบ 3) สภ.พิบูลย์รักษ์ นำกำลังควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 4 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีฆ่าแล้วเผา บริเวณริมถนนสายบ้านนาทรายน้ำรอด-บ้านสะแบง หมู่ อ.พิบูลย์รักษ์ จ. อุดรธานี ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับไปยัง สภ.พิบูลย์รักษ์
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อารักษ์ มะสาธานัง ผกก.สภ.พิบูลย์รักษ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชลชาต พ.ต.ท.กานต์ และพ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ นำกำลังไปตรวจสอบเหตุฆ่าแล้วราดน้ำมันจุดไฟเผาสาวประเภทสองบริเวณถนนสายนาท ราย – สะแบง อ.พิบูลย์รักษ์ ที่เกิดเหตุพบศพนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี บ้านอยู่ ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี สภาพถูกฟันและตีศีรษะจนเละเกือบจำไม่ได้ ลำตัวมีรอยไฟไหม้ และรอยเลือดจำนวนมาก
ขณะเดียวกันมีประชาชนยืนมุงดู เหตุการณ์จำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่า มี 1 ในผู้มุ่งดูเหตุการณ์เกิดรอยไหม้บริเวณมือ เนื้อตัวมอมแมมและเปื้อนเลือดเป็นหย่อมๆ จึงเชิญตัวไปสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน คือ นายซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นายดี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี และนายอี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ทั้งหมดบ้านอยู่ในพื้นที่ อ.พิบูลย์รักษ์ รุมฆ่านายเอ โดยก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มเบียร์ในกระท่อมนาริมถนนสายนาทราย – พิบูลย์รักษ์ ระหว่างนี้ นายเอเข้ามาหาแล้วขอให้ไปส่งที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แต่พวกตนไม่ตกลง จึงถูกต่อว่า ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหจึงไล่ไป แต่นายเอยังไม่ยอมหยุดต่อว่า จึงคว้าขวดเบียร์ตีศีรษะคนละ 1 ครั้ง
...
นายบี ให้การต่อว่า หลังจากนั้น นายเอได้วิ่งหนีไปพร้อมตะโกนว่า จะกลับมาเอาคืนจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไปพร้อมหยิบมีด ฉมวก ไม้ไผ่ และค้อนติดมือไปด้วย จนทันนายเอ เดินอยู่ห่างจากกระท่อมนาประมาณ 500 เมตร จึงรุมทุบตีและฟันนับครั้งไม่ถ้วน จนนายเอแน่นิ่งแล้ว จึงนำน้ำมันในรถจักรยานยนต์ราดและจุดไฟเผา หวังอำพรา ก่อนไปล้างคราบเลือดจากอาวุธ แล้วไปนอนที่บ้าน จนเช้าชาวบ้านลือว่ามีคนถูกฆ่า ทนไม่ได้จึงได้กลับไปดู เพราะเชื่อว่าไม่มีใครรู้เรื่อง แต่กลับถูกจับ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ก่อนนำตัวไปค้นบ้านพักของนายบี พบเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของผู้ต้องหาทั้งหมด รวมทั้งของกลางที่ใช้ทำร้ายนายเอ ขณะที่เมื่อนำทั้ง 4 คน ไปตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงควบคุมตัวไปทำแผน และจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป