สถานการณ์น้ำใน จ.กาฬสินธุ์-จ.บึงกาฬ ล่าสุดเขื่อนลำปาวเหลือน้ำเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ต้องสั่งปรับลดการส่งน้ำเพื่อสำรองน้ำ พร้อมขอให้ ปชช.ใช้น้ำอย่างประหยัด ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยบังบาตรได้รับน้ำจากเขาภูสิงห์ เขาภูวัง ทำให้มีน้ำเกินกักเก็บ เสี่ยงเอ่อล้น หวั่นไหลสู่พื้นที่การเกษตร ชลประทานต้องเปิดประตูระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 19 ส.ค.62 ที่ จ.บึงกาฬ เช้าวันนี้ฟ้าเปิดท้องฟ้าแจ่มใส แต่ยังมีเมฆปกคลุมบางแห่ง ระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ 7.10 ม. ลดลงจากวานนี้ 10 ซม. แต่ยังมีมวลน้ำสะสมตลอด 4-5 วันที่ผ่านมา ทำให้ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยบังบาตร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีน้ำไหลลงมาจากเขาภูสิงห์ ประกอบกับมีน้ำเหนือจากเขาภูวัวไหลลงมาสมทบ มีน้ำไหลเข้าอ่างเกินกักเก็บแล้ว 1.75 ม. เสี่ยงเอ่อล้นพื้นที่ลุ่มต่ำ
ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านในตำบลบ้านต้อง อ.เซกา และตำบลชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ โครงการชลประทานบึงกาฬ จำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บาน ตลอด 24 ชั่วโมง ยกบานประตูขึ้นสูง 1 เมตร เร่งระบายน้ำวันละ 0.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงเต็มกำลัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านที่อยู่รอบๆ อ่างเก็บน้ำ ทั้งนาข้าว สวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน หลายร้อยไร่ รวมทั้งพื้นที่ทำการเกษตรอื่นๆ ของชาวบ้านที่มีพื้นที่ติดริมอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะข้าวนาปี
...
ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์ จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงนี้หลังพบว่าเริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มากนัก โดยวันนี้ได้รับการรายงานว่าฝนที่ตกลงมาทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนประมาณ 1.61 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 404 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 20 ของความจุอ่าง ยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสถานการณ์น้ำที่ไม่ดีขึ้นเนื่องจากมีฝนตกลงมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทางเขื่อนลำปาวจึงเริ่มทำการปรับลดการระบายน้ำจากวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้เหลือวันละ 1.61 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้เหลือเป็นน้ำต้นทุนในการอุปโภค-บริโภค
"ซึ่งทางเขื่อนยังยืนยันว่าปริมาณน้ำจะเพียงพอต่อความต้องการในการใช้อุปโภค-บริโภคอย่างแน่นอน ส่วนการเกษตรทางเขื่อนลำปาวเริ่มชะลอการส่งน้ำแล้ว เพราะหากปล่อยน้ำเกินความต้องการจะส่งผลกระทบต่อน้ำต้นทุนใช้การในปีหน้าได้ จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำกันอย่างประหยัดและรู้คุณค่าของน้ำ เพราะสถานการณ์น้ำปีนี้แตกต่างจากทุกๆ ปีโดยสิ้นเชิง ปริมาณน้ำฝนน้อยเกินกว่าการคาดการณ์ อีกทั้งความร้อนยังพุ่งสูงกว่าทุกปี การระเหยของน้ำจึงมีมาก ซึ่งทางเขื่อนได้ประเมินสถานการณ์น้ำกันอย่างใกล้ชิด และประกาศชี้แจงตลอดเวลา โดยในช่วงนี้ต้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันช่วยกันใช้น้ำกันอย่างประหยัดเพื่อที่จะสามารถฝ่าวิกฤติแล้งไปได้".
...