เด็กหญิงวัยแค่ 10 ขวบ อาศัยอยู่กับพ่อที่เป็นม่าย ดื่มเหล้า ดมกาว เมาแล้วเกิดอารมณ์ก็มาลงที่ลูก กระทำอนาจารต่อเนื่องซ้ำซาก ถูกจับติดคุก 2 ปี ออกมาทำแบบเดิมอีกถึง 15 ครั้ง จนเด็กทนไม่ไหว วิ่งฝ่าสายฝนร้องให้ช่วย  

วันที่ 9 ก.ค. ที่ สภ.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายพันธ์ศักดิ์ กุ่มดวง นายอำเภอนาคู พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.นาคู พร้อมด้วยผู้นำชุมชน คณะผู้บริหาร ครู ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ร่วมกันสอบปากคำ นายเพขร (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ชาว ต.บ่อแก้ว อ.นาคู ผู้ต้องหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยกระทำอนาจารลูกสาวตัวเอง ซึ่งอายุเพียง 10 ขวบ หลังถูกตำรวจกดดันอย่างหนักได้เข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.สันติ เหล่าสักสาม พนักงานสอบสวน สภ.นาคู เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้วิ่งฝ่าสายฝนไปขอความช่วยเหลือกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน พร้อมกับนำเรื่องไปแจ้งให้ครู ตำรวจทราบ หลังจากถูกพ่อบังเกิดเกล้าที่ดื่มสุราและดมกาวจนเมา กระทำอนาจารหลายครั้ง โดยการใช้อวัยวะเพศที่แข็งตัวถูไปมาบริเวณอวัยวะเพศของเด็ก และจับหน้าอกเพื่อสำเร็จความใคร่ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นามน รับทราบข้อมูลจึงเข้าไปให้การช่วยเหลือ และนำตัวเด็กไปส่งโรงพยาบาลทันที

ด้าน พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามพยานบุคคลและพยานแวดล้อม ทราบว่า ประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2562 ครูฝ่ายปกครองฯ ได้รับแจ้งจากเด็กหญิงเอ ว่า ทนพฤติกรรมของผู้เป็นบิดาไม่ไหว เนื่องจากได้กระทำการอนาจารบ่อยครั้ง โดยจะอาศัยช่วงกลางดึกทำการอนาจาร ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือและรอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อกามารมณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นามน จึงร่วมกับผู้นำชุมชนและคณะครู ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน จากนั้นนำตัวเด็กหญิงเอไปตรวจร่างกาย ซึ่งได้พบหลักฐานถูกอนาจารจริง และทีมสหวิชาชีพทำการสอบสวน ก่อนที่จะนำตัวเด็กเข้ารับการฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็กกาฬสินธุ์

...

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นยอมรับว่าดื่มสุราและดมกาวจริง แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอนาจารลูกสาว อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่มักดื่มสุราและเสพยาเสพติด เพราะหากเมาแล้วจะทำให้ขาดสติก่อเหตุในลักษณะนี้ ซึ่งถือเป็นความรุนแรงในครอบครัว ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องหมั่นดูแลบุตรหลาน เอาใจใส่ครอบครัวให้อบอุ่น

ขณะที่ พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.นาคู กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเป็นพ่อม่ายหย่าร้างกับภรรยาซึ่งเป็นแม่ของเด็กหลายปี โดยมีลูกด้วยกัน 2 คน เด็กหญิงเอเป็นลูกสาวคนโต และคนรองเป็นชาย อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน 4 คน โดยมีย่าของเด็กอยู่ด้วย ส่วนผู้ต้องหามีพฤติกรรมชอบดื่มสุราและดมดาว และมักเกิดอารมณ์ทางเพศ

"จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษออกมาจากข้อหาอนาจาร ซึ่งมีพฤติกรรมในลักษณะนี้โดยกระทำอนาจารลูกสาวเมื่อปี 2558 ถูกจำคุก 2 ปี พ้นโทษเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ต่อมาได้ก่อเหตุซ้ำอีก โดยกระทำอนาจารต่อบุตรสาวของตนเองอีก เมื่อวันที่ 29-31 พฤษภาคม 2562 และวันที่ 1-11 มิถุนายน 2562 จำนวน 15 ครั้ง โดยทุกครั้งจะมีอาการเมาสุรา ดมกาว และกระทำในตอนกลางคืนโดยเด็กถูกทำอนาจารถึง 15 ครั้ง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี".