กล่าวถึง “ขยะ” สิ่งปฏิกูล เศษสิ่งของเหลือใช้ เน่าเหม็น สกปรก ถูกทิ้ง ไม่เป็นที่ต้องการ..แต่ไม่ใช่กับทุกคน หลายคนเห็นขยะเป็นสิ่งมีค่า สามารถเปลี่ยนเป็นเงิน มาเกื้อหนุนครอบครัว
ดาบตำรวจชัยรัตน์ แสงโคตร ผบ.หมู่ ป.สภ.เอราวัณ จ.เลย 1 ในเหยื่อโครงการบริหารหนี้ฯ สหกรณ์ออมทรัพย์ ตำรวจภูธร จ.เลย ถูกโกงจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว หวุดหวิดกลายเป็นบุคคลล้มละลาย
เรื่องผ่านมานานกว่า 1 ปี มีเหยื่อที่ทั้งหมดเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยใน จ.เลย 196 นาย วงเงินรวมกัน 240 ล้านบาท คดีกำลังถูกนำขึ้นสู่ศาล พร้อมกับความหวังที่จะได้รับการชดใช้ ชดเชย โดยผู้ถูกกล่าวหา คือ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เลย และพวก
สำหรับ ดาบตำรวจชัยรัตน์ สูญเงินกว่า 2,100,000 บาท ชีวิตเหมือนดิ่งลงเหว ลำพังเงินเดือนถูกหักไปใช้หนี้ แทบไม่เหลือไว้ประทังชีวิต แต่เขากับภรรยาคู่ชีวิตก็หาได้ยอมแพ้ ออกมารับซื้อของเก่า อีกทางก็ขายก๋วยเตี๋ยว ทำงานตัวเป็นเกลียว เพื่อความอยู่รอด พร้อมกับหวังลึกๆ ว่าจะได้เงินคืน แม้โอกาสริบหรี่
...
กิจการรับซื้อขยะ จึงถือเป็น “ขยะเพื่อชีวิต” อย่างแท้จริง แม้รายได้ไม่มาก วันละหลักร้อยถึงหลักพันบาท แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นอาหาร ปัจจัยเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัว ให้อยู่รอด
“การรับซื้อของเก่า ทำเป็นอาชีพเสริม พอดีมาเจอเรื่องโครงการบริหารหนี้ ก็พอช่วยได้แม้ไม่มาก โดยรับซื้อ แล้วนำไปขายอาทิตย์ละครั้ง ขึ้นอยู่ที่ตัวสินค้า ได้กำไรมา 500-600 หรือ 1,000 บาท เป็นการแบ่งเบาภาระได้พอสมควร ต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด ต้องดิ้นรน หารายได้ทางอื่นเพิ่ม ลำพังเงินเดือนโดนหักหนี้ก็ไม่พอแล้ว”
นายดาบ เหยื่อนายพล ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากรับซื้อของเก่าแล้ว ทางแม่บ้านยังได้เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ช่วยกันสองแรง เป็นการช่วยครอบครัวให้อยู่รอด และอยากบอกไปยังเพื่อข้าราชการด้วยกันที่เข้าร่วมโครงการบริหารหนี้ฯ อย่าท้อ ต้องสู้ มีอะไรที่สามารถหารายได้ช่วยครอบครัวได้ ให้ทำ ไม่ต้องอายทำกิน ทำทุกอย่างที่เป็นเงิน ให้สู้ๆ”
ส่วนความคืบหน้า ความหวังจะได้เงินที่ถูกโกงคืนมาบ้าง ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม
"เห็นว่าวันที่ 4 มิถุนายนนี้ จะมีการส่งสำนวนฟ้อง และทางสหกรณ์ฯ จะช่วย ด้วยการหักหนี้ส่งสหกรณ์ให้น้อยลง เพื่อให้มีเงินไปใช้จ่ายและไปใช้หนี้สถาบันการเงินอื่นๆ ช่วงนี้จึงรอให้ส่งสำนวนฟ้อง หรือจะมีการตกลงเจรจา เยียวยา ผู้เสียหายอย่างไร" ดาบตำรวจชัยรัตน์ กล่าวพร้อมถอนหายใจ
(คดีนี้ ตำรวจสังกัด ภ.จว.เลย 196 นาย ร้องทุกข์ว่า พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช. สกพ. อดีตผู้บังคับบัญชาเมื่อครั้งเป็น ผบก.ภ.จ.เลย พร้อมพวก ชักชวนเข้าร่วมโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลยไปปิดหนี้ธนาคาร แต่นำเงินไปลงทุน จนต้องสูญเงินกว่า 240 ล้านบาท
...
ต่อมา พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 ได้สั่งสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา ฐานฉ้อโกงประชาชน และแชร์ลูกโซ่ พร้อมกับให้ออกราชการไว้ก่อน
ขณะที่ผลกระทบจากโครงการกู้รวมหนี้ดังกล่าว ทำให้ตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อ ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด บางรายหลังออกเวรไปนั่งขายลูกชิ้นปิ้งหน้าป้อมตำรวจ กำไรวันละ 50-100 บาท ภรรยาของตำรวจบางราย เครียดอาละวาดพังข้าวของ บางรายถึงขั้นหวาดระแวงว่า มีคนตามทวงหนี้ และจะฆ่าให้ตาย..)