สาวถูกหลอกขายรถป้ายแดง เดินหน้าร้องเรียนเอง ติดตามความคืบหน้าเอง ทำเองทั้งหมด เผยยังต้องจ่ายค่างวดทุกเดือน ไม่อยากมีปัญหากับไฟแนนซ์ ยืนยันต้องคืนเงินเท่านั้น ไม่รับการเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น
จากกรณีที่ นางชุติมณศ์ อังเดรส อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 5 ตำบลอัคคะคำ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ขอเช่าซื้อรถยนต์ใหม่รุ่นปี ค.ศ. 2018 จากผู้แทนจำหน่ายศูนย์กาฬสินธุ์ ในราคา 1,595,000 บาท แต่ตอนรับรถ ได้กุญแจเพียงดอกเดียว และพบว่าไมล์ระยะทางวิ่งมาแล้ว 900 กิโลเมตร พนักงานขายตอบว่า เนื่องจากรถคันนี้ขับมาจากกรุงเทพฯ ถึงกาฬสินธุ์
แต่หลังจากนั้น ปรากฏว่ารถใหม่ป้ายแดงคันที่เช่าซื้อลมยางรั่ว ตรวจสอบยางทั้ง 4 เส้นเป็นยางที่ผลิตปี ค.ศ. 2014 อีกทั้ง และหลังจากได้รับเอกสารชุดจดทะเบียนรถ ระบุว่าเป็นรถรุ่นปี ค.ศ. 2014 ทำให้รู้สึกช้ำใจเป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ว่า ไม่มีความปลอดภัยในการใช้รถ และในวันที่ 30 เมษายน 2562 ได้ขอนำรถเข้าจอดที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดกาฬสินธุ์ ประสงค์ขอส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืน และขอรับเงินค่าเช่าซื้อทั้งหมดที่ชำระไปแล้วคืนพร้อมทั้งให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหาย และได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ด้วย
...
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 พ.ค.นางชุติมณศ์ อังเดรส ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ และพบกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ยื่นเรื่องไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคส่วนกลางไปแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังส่วนกลาง ทราบว่า ทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ส่วนกลางได้รับเรื่องแล้ว ขณะนี้กำลังรอเอกสารส่งกลับมาที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียด และเข้าร่วมในการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างผู้เสียหายกับศูนย์รถยนต์ดังกล่าวภายในสิ้นเดือน ไม่เกินวันที่ 1 เมิ.ย.นี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทางผู้เสียหาย หรือผู้บริโภค ในการตัดสินใจ
นางชุติมณศ์ อังเดรส ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากทราบว่าตนได้รถเก่า ทั้งที่เสียเงินซื้อรถใหม่ป้ายแดง ทำให้ตกเป็นผู้เสียหาย ได้ดำเนินการยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมเอง นอกจากนี้ ขณะนี้ตนยังชำระงวดรถทุกวันที่ 10 ของเดือน เพราะไม่อยากติดค้างไฟแนนซ์ ส่วนข้อเสนอที่ทางศูนย์รถแจ้งมา ก็มีการเปลี่ยนยางให้ใหม่ การเปลี่ยนโฉมกระจังหน้าใหม่ รวมไปถึงการติดสัญญาณ GPS หรือส่วนลดรถค่าบำรุงรักษา ตนมองว่ามันเป็นการแก้ปลายเหตุ หากไม่ใช่รถของตัวเองจะไม่รู้ว่ามีความรู้สึกอย่างไร
“ขณะนี้รอเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับศูนย์รถ ว่าทางศูนย์จะนำรถกลับคืน และคืนเงินให้หรือไม่ หากยังยื่นข้อเสนอเหมือนเดิม ก็จะเดินหน้าเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด และอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยเข้ามาตรวจสอบและหาแนวทางช่วยเหลือ เห็นใจผู้บริโภคด้วย”