แม่น้องสปาย แฉ เสี่ยอ้วน หึงรุนแรง เคยตามทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงหลายครั้งจนต้องหลบหนี ยอมรับเสี่ยอ้วนเคยโอนเงินเข้าบัญชีพ่อถึง 1 ล้าน แต่ไม่ใช่เป็นการหลอกลวง ขอกระบวนการยุติธรรมจับตัวมาลงโทษ...
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี ชาวอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งสองยังเป็นคู่รักกันจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งตำรวจได้จับทีมไล่ล่าคนร้ายที่คาดว่าเป็นเสี่ยใหญ่ที่จังหวัดภูเก็ต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ อายุ 41 ปี แม่ของน้องสปาย ผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง กล่าวว่า แต่เดิมน้องสปายเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ประมาณ 1 เทอม แล้วลาออก เพราะต้องการที่จะหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว ด้วยการไปทำงานตามสถานบันเทิง โดยเฉพาะที่ จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ต้นปี 2559 เพราะพี่สาวที่รู้จักกันในหมู่บ้านทำงานที่นั่นบอกได้เงินดี และที่ผ่านมาก็ส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ทีแรกก็ตกใจ จึงได้แอบไปดูลูกเพราะกลัวว่าจะไปขายตัว แต่ลูกก็ยืนยันว่าในชีวิตไม่เคยคิดที่จะขายตัว จึงปล่อยให้ลูกทำงาน และลูกบอกว่ามีเสี่ยอ้วนมาติดพัน และบอกว่าต้องการที่จะได้น้องไปเป็นเมีย แต่ตนให้ไม่ได้ เพราะหากต้องการก็จะต้องมาสู่ขอ
...
แม่ของน้องสปาย กล่าวต่อว่า แต่ปรากฏว่าเมื่อถามลูกสาวเค้าก็ไม่ยอมรับ เพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมณ์รุนแรง และมีอิทธิพลในจังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงปลายปี 2559 ลูกสาวได้โทรมาเล่าให้ฟังตลอดว่า ทุกครั้งที่ “เสี่ยอ้วน” เห็นลูกสาวไปอยู่ในกลุ่มเพื่อน ก็จะเดินเข้าไปฉุดกระชาก บางครั้งก็จะเดินเข้าไปบีบคอ ทำร้ายร่างกาย ปลายปี 2560 จึงได้ไปทำงานที่ จังหวัดนครปฐม แต่เสี่ยอ้วนก็ยังคงติดตามหา จนในช่วงต้นปี 2561 ตนกับลูกสาวมีความคิดที่จะซื้อรถ ลูกสาวก็ได้บอกว่าจะโอนเงินมา และเสี่ยอ้วนก็รู้ว่าจะซื้อรถ และบอกว่าจะโอนเงินให้ไปซื้อรถ 1 ล้านบาท ขณะนั้นครอบครัวปฏิเสธ แต่แล้วก็มีเงินเข้ามาในบัญชีถึง 1 ล้านบาท เสี่ยอ้วนก็โทรมาบอกว่าให้พ่อกับแม่ไปซื้อรถ
นางวันเพ็ญ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าครอบครัวและน้องสปายไม่เคยคิดที่จะไปปอกลอกเลย แต่เสี่ยอ้วนมีแต่หยิบยืนเงินให้ทั้งที่น้องสปายปฏิเสธ เหมือนกับเป็นการจะใช้เงินซื้อลูกสาว แต่ลูกสาวไม่ชอบเพราะเป็นผู้มีอิทธิพล จึงพยายามออกห่าง แต่ก็ต้องมาเจอเช่นนี้ ขอให้ตำรวจจับคนร้ายมาให้ได้ และให้เสี่ยอ้วนมารับกรรม
"หากฆ่าคนไม่ผิดกฎหมาย ตนก็อยากจะฆ่ามันให้ตายเหมือนกัน หากไม่ผิดกฎหมาย สิ่งที่ห่วงขณะนี้คือ ความยุติธรรม เพราะ เสี่ยอ้วน เคยโทรมาขู่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เงินสามารถซื้อได้ทุกเรื่อง และเคยซื้อตำรวจมาแล้ว เพราะก่อนหน้ายิงคนตายก็ไม่ติดคุก แต่ก็เชื่อว่ากฎหมายจะดำเนินคดีได้" แม่ของน้องสปาย กล่าว
ล่าสุด เจ้าหน้าที่มูลนิธิจากจังหวัดชลบุรี ได้นำศพของ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย และ นายอนันตชัย หรือ ฟอส มาถึงเมื่อเวลา 23.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้นำศพตั้งแยกกัน โดยศพ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านนาตาล ตำบลนาตาล ส่วนศพของ นายอนันตชัย หรือ ฟอส จริตรัมย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ้านนาตาล หมู่ที่ 12 และในช่วงเช้า ชาวบ้านพากันมาทำบุญบำเพ็ญกุศลศพท่ามกลางความโศกเศร้า โดยมี นายเวนิช์ ชูศรีพัฒน์ ปลัดอาวุโสอำเภอท่าคันโท นายวราวุฒิ ตุลาพัฒน์ สาธารณสุขอำเภอท่าคันโท และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าคนโท เข้าให้กำลังใจ.