เปิดทำการสนามบินอุบลราชธานี เป็นปกติแล้ว หลังไฟฟ้าขัดข้องในวันแรงงาน ด้านผอ.สนามบิน ชี้เป็นเหตุสุดวิสัย โชคดีเจ้าหน้าที่ดับไฟได้ทัน ไม่เกิดการลุกลาม...

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า ได้ประกาศเปิดทำการท่าอากาศยานอุบลราชธานีเป็นปกติแล้ว หลังเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรอาคารควบคุมระบบไฟฟ้าสนามบิน (AFL) เมื่อวันที่ 1 พ.ค. เวลา 18.00 น. ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าสนามบินขัดข้อง และได้ออกประกาศปิดใช้ท่าอากาศยานในวันที่ 1 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 19.20 น.-วันที่ 2 พ.ค. เวลา 08.00 น. เพื่อเร่งดำเนินการซ่อมระบบไฟฟ้าสนามบินให้สามารถใช้งานได้แล้ว จึงขอแจ้งประกาศเปิดใช้ท่าอากาศยานอุบลราชธานีในวันที่ 2 พ.ค. เป็นปกติ

ทั้งนี้เมื่อเช้าวันนี้ (2 พ.ค.) สายการบินนกแอร์ เพิ่มเที่ยวบิน (พิเศษ) เที่ยวบิน DD6400 เส้นทางดอนเมือง-ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เพื่อมารับผู้โดยสารที่ตกค้าง และเที่ยวบินอื่นๆ สามารถบินได้ตามตารางเวลาได้ตามปกติ สำหรับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางท่าอากาศยานอุบลราชธานีร่วมกับสายการบินดำเนินการดูแลและช่วยเหลือผู้โดยสาร ในการเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบิน

ด้านนายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เย็นวานนี้ได้เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรภายในอาคารแผงควบคุมระบบไฟฟ้ารันเวย์ไหม้ภายในอาคาร โชคดีเจ้าหน้าที่ดับไว้ได้ทันไม่เกิดการลุกลาม แต่ส่งผลต่อไฟรันเวย์สนามบินดับ ไม่สามารถใช้การใดๆ ได้ ทางสนามบินจึงประกาศปิดสนามบินไม่ให้มีการนำเครื่องขึ้นลงได้จำนวน 7 เที่ยวบิน และเร่งระดมช่างเทคนิคเข้ามาซ่อมแซมระบบไฟให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้วเสร็จเมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา และเปิดให้ใช้งานสนามบินได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.

...

ทั้งนี้เที่ยวบินแรกในเช้านี้สายการบินไทยสมายล์ นำผู้โดยสารจากสนามบินสุวรรณภูมิเที่ยวบินที่ WE020 มาส่งถึงสนามบินอุบลราชธานี เวลา 07.56 น. และรับผู้โดยสารจากสนามบินอุบลราชธานี เที่ยวบินที่ WE021 ออกไปเวลา 08.38 น. เพื่อส่งผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดถือเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งทางสนามบินมีการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ตามวงรอบเป็นประจำแล้วโดยสาเหตุที่แน่ชัดต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานอุบลราชธานีและเจ้าหน้าที่จากกรมท่าอากาศยานเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง

ขณะที่ในเช้านี้ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานอุบลราชธานี ได้นำอุปกรณ์ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบภายในอาคารแผงควบคุมไฟฟ้าแต่ยังไม่สามารถปฏิบัติการได้ในทันที เพราะต้องรอดำเนินการตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากกรมท่าอากาศยานก่อน.