ครูโพสต์เฟซบุ๊กเตือนลูกศิษย์ ระวังครูชายคนหนึ่งหื่นคุกคามทางเพศ แต่กลับถูก สพม.เขต 24 ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง ส่วนเรื่องครูฉาวถูกเก็บเรื่องเงียบไม่มีคืบหน้า กระทั่งหอบหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อเครือข่ายสื่อสารต้านทุจริต กสทช.แก้ข้อกล่าวหาที่ถูกสอบสวน

ครูโพสต์เตือนลูกศิษย์สาวระวังครูชายล่วง ละเมิดกลับถูกตั้งกรรมการสอบสวน เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มี.ค. นางเยาวเรศ สีพรมติ่ง ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนระดับชั้นมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เข้าพบนายธนรรชน พหลทัพ เครือข่ายสื่อสารต้านทุจริต กสทช.และ ป.ป.ช.เพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้ข้อกล่าวหาที่ถูกสอบสวนทางวินัยไม่ร้ายแรง กรณีโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเตือนนักเรียนหญิงให้ระวังครูชายคนหนึ่งของ โรงเรียนดังกล่าว มีพฤติกรรมลวนลามเด็กหญิง

นางเยาวเรศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2560 โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กว่า “ฟังแล้วแทบไม่น่าเชื่อเลย เมื่อนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ส่งข้อมูลมาให้...ครูขอมีอะไรกับหนูค่ะ...อยากวันไหนให้โทร.มานัด...แถมขู่นักเรียน...ห้ามนำมาแจ้งครู” ตนแจ้งเตือนผู้ปกครองและนักเรียนหญิงได้ระมัดระวังภัยจากครูชายรายนี้ ของโรงเรียน หลังจากนั้นไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ผอ.ร.ร.ไม่เคยสอบถามข้อมูลจากตน หรือตรวจสอบเหตุดังกล่าวจริงหรือไม่

นางเยาวเรศเปิดเผยอีกว่า ต่อมาคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 หรือ สพม.เขต 24 มาสอบปากคำตนเรื่องการโพสต์เฟซบุ๊ก แต่ไม่ถามเรื่องที่ครูชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คณะกรรมการตรวจสอบอ้างว่าเรื่องสอบครูกับนักเรียนดังกล่าวยังไปไม่ถึง จนถึงบัดนี้ยังไม่มีการสอบเรื่องฉาว กระทั่ง สพม.เขต 24 มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงกับตน ทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม นำเรื่องไม่ถูกต้องมาเตือนลูกศิษย์กลับมีความผิดทางวินัย แต่ครูที่ทำเรื่องไม่เหมาะสมกลับไม่ถูกลงโทษ ตนทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมส่งทางไปรษณีย์ ไปยัง สพม.เขต 24 และ ป.ป.ช.จังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว

...

นายธนรรชน พหลทัพ กล่าวว่า นางเยาวเรศข้าราชการครูมาขอความช่วยเหลือถูกสอบสวนทางวินัย เบื้องต้นตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วพบว่า นางเยาวเรศเป็นครูประจำชั้นให้คำปรึกษากับนักเรียนที่รับผิดชอบดูแล เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกคุกคามทางเพศ รวมถึงการให้คำแนะนำนักเรียนหญิงและผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงเรียนดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครองในแต่ละปีการศึกษาคนละ 2,400 บาท มีนักเรียน 2,000 คนเป็นค่ามอบตัว เงินจำนวนดังกล่าวไม่ออกใบเสร็จรับเงินทางราชการไว้เป็นหลักฐาน และไม่ได้นำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ เป็นข้อสงสัยของนักเรียนและผู้ปกครอง กรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อคุณภาพทางการศึกษา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามกรณีดังกล่าวกับนายชัยวัฒน์ ตั้งพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 จ.กาฬสินธุ์ ได้รับทราบว่า คณะกรรมการดำเนินการสอบสวนเป็นการภายในให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วจะชี้แจงในลำดับต่อไป