ไก่ดำมองโกเลีย.

“ปี 2555 ได้รับแจกพ่อแม่พันธุ์ไก่ดำภูพานมาหลายคู่จากโครงการส่งเสริมช่วยเหลือเกษตรกรของจังหวัดอุบลราชธานี แต่เลี้ยงไปไม่นาน ทยอยตายไปเรื่อยๆจนเหลือตัวผู้ 1 ตัว เมีย 3” สุเทพ ศิริมูล เจ้าของ “เทพศิริฟาร์ม” ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงไก่ดำ จนทำให้พบว่า ไก่ดำที่ตายลงไปมากเพราะมีปัญหาเลือดชิด...เลี้ยงไปเรื่อยๆจะกลายพันธุ์ไปจากเดิม มีเนื้อดำน้อยลง อ่อนแอต่อโรค เลี้ยงไม่ค่อยโต

ต้องแก้ปัญหาด้วยการนำพ่อแม่พันธุ์ใหม่เข้ามาสลับผสมข้ามสายพันธุ์

ไก่ดำภูพาน.
ไก่ดำภูพาน.

“ปี 2557 เริ่มนำพ่อแม่พันธุ์ใหม่มาผสม 2 ปีต่อครั้ง โดยยังใช้ไก่ดำสายพันธุ์ภูพานเป็นหลัก และนำไก่ดำสายพันธุ์อื่นเข้ามาผสมข้ามเพื่อยกระดับสายเลือด เอาไก่ดำมองโกเลียมาผสมเพื่อจะได้ขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น และไก่ดำแฟนซี เพื่อเพิ่มการทนทานต่อโรค”

นับมาถึงปัจจุบันไก่ดำของเทพศิริฟาร์ม จะเป็นช่วงรุ่น F2 ได้ลูกพันธุ์มาประมาณ 400 ตัว 4 ลักษณะ...1.ขนดำทั้งตัว 2.ขนขาวทั้งตัว 3.ขนขาวหัวตั้งแบบแฟนซี และแบบที่ 4.ขนขาวหัวตั้งมีขนขาวขึ้นที่ขา

...

ลูกไก่ทั้ง 4 แบบ...เนื้อ หนังยันกระดูก จะเป็นสีดำทั้งหมดและกำลังจะพัฒนาให้เป็น F3 เพื่อให้ได้สายพันธุ์ไก่ดำใหม่ ที่มีคุณสมบัติแตกต่างไปจากเดิม...ตัวใหญ่โตไว ทนทานต่อโรค ใช้ระยะเวลาเลี้ยงให้ได้น้อยกว่า 120 วัน...ใกล้สำเร็จในเร็วๆนี้

ลูกผสม F2.
ลูกผสม F2.

จากจุดนี้เอง สุเทพแนะนำเกษตรกรที่สนใจจะเลี้ยงไก่ดำ...เมื่อเลี้ยงไปแล้ว หากพบว่าไก่มีลักษณะด้อยปรากฏออกมามากขึ้น จะต้องยกระดับสายเลือด ด้วยการนำพ่อแม่พันธุ์ชุดใหม่เข้าไปผสมเสมอ

ส่วนการสร้างตลาด เทพศิริฟาร์มแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ โดยเน้นการจำหน่ายตรงในรูปของไก่ดำตุ๋นยาจีนและสมุนไพรพื้นบ้าน เปิดร้านอาหารใกล้บ้านให้ลูกค้าที่นิยมบริโภคมารับประทานและซื้อกลับบ้าน... ส่วนอีกด้าน ผลิตจำหน่ายเป็นลูกพันธุ์ และพ่อแม่พันธุ์

ไก่ดำแฟนซี.
ไก่ดำแฟนซี.

สนนราคาตั้งแต่ตัวละ 50 บาทไปจนถึง 1,500 บาท แล้วแต่ขนาดตัวของไก่ดำ หรือลักษณะรูปทรงที่ออกมาตรงใจกับ ลูกค้า...แต่ละปีจะมีรายได้ส่วนนี้รวมแล้วอยู่ในหลักแสนบาท

ไก่ดำ F3 จาก “เทพศิริฟาร์ม” สีดำเมี้ยนทั้งตัวและดำตลอดกาล สมกับเป็นไก่ดำจริงๆ พร้อมจะเปิดตัวในงานเกษตรอีสานใต้ 9-18 ก.พ.นี้ ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สอบถามได้ที่ 08-1548-4380.

ไชยรัตน์ ส้มฉุน