แม่ค้าที่ยโสธรยิ้มแก้มปริ รับบัตรคนจนรายแรกของจังหวัด ยอมรับยังงงๆ อยู่ว่าใช้ยังไง จนท.ชี้ใช้ในร้านค้าสวัสดิการประชารัฐ และร้านอื่นที่ร่วมโครงการ โดยนำรูดไปกับเครื่อง EDC ยังมีส่วนลดอีกหลายอย่างทั้งค่าแก๊ส ค่ารถเมล์ แต่ต้องใช้เองเท่านั้น ห้ามขายต่อ... 


เวลา 08.30 น.วันที่ 21 ก.ย.60 ที่สำนักงานคลังจังหวัดยโสธร ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรผู้มีรายได้น้อย โดยมี น.ส.เพ็ญศรี เจริญสุทธิพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นคนมอบบัตรให้กับผู้มีสิทธิรายแรก และมีนางวิชิตา เลิศพุทธิพงศ์พร คลังจังหวัดยโสธร ให้การต้อนรับพร้อมกับชี้แจงทำความเข้าใจในการใช้บัตรดังกล่าว 

นางวิชิตา กล่าวว่า จ.ยโสธร มีผู้ลงทะเบียนในโครงการทั้งหมดจำนวน 136,145 คนมีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 105,246 คน แยกตามหน่วยงานลงทะเบียนประกอบด้วย ธ.ก.ส. จำนวน 55,472 คน ออมสินจำนวน 35,097 คน กรุงไทยจำนวน 12,269 คน สำนักงานคลังยโสธรจำนวน 2,408 คน ซึ่งขณะนี้บัตรทั้งหมดได้กระจายบัตรทั้งหมดไปตามหน่วยงานแล้ว

นางวิชิตา กล่าวต่อว่า ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งภาครัฐจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปีจะได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน หากรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีจะได้รับเงิน 300 บาทต่อเดือน และยังได้รับวงเงินส่วนลดค่าซื้อแก๊สหุงต้มจากร้านที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อสามเดือน นอกจากนี้ยังลดค่าใช้จ่ายการเดินทางประกอบด้วยวงเงินค่าโดยสารรถเมล์-รถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน วงเงินค่าโดยสารรถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน โดยหากเงินดังกล่าวหากไม่ได้ใช้จะถูกตัดยอดไปและไม่สามารถสะสมได้ และทางรัฐจะเติมเงินเข้าระบบให้ในวันที่ 1 ของทุกเดือน 

...

“ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีระบบชิปการ์ดต้องนำไปรูดกับเครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์รับชำระบัตรอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ (EDC) ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยในจังหวัดยโสธรจะติดตั้งเครื่อง EDC ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 ตุลาคม ส่วนร้านค้าในจังหวัดยโสธรเรานั้นขณะนี้มีทั้งหมด 100 ร้านที่จะเข้าร่วมโครงการ แต่จากการสำรวจคาดว่าไม่เพียงพอ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่อยู่ต่างอำเภอ การเดินทางมาซื้อที่ร้านค้าประชารัฐยังลำบากอยู่ ดังนั้นพาณิชย์จังหวัดจึงร่วมกับคลังจังหวัด พยายามหาร้านค้ามาเพิ่มขึ้นอีกพร้อมกับติดตั้งเครื่องEDC ประมาณอีก 200 ร้านค้า โดยขณะนี้เครื่อง EDC ได้ติดตั้งภายในจังหวัดแล้ว 7 เครื่อง ส่วนเงินที่จะมาหมุนเวียนใน จ.ยโสธร คาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อเดือน”

นางวิชิตา กล่าวอีกว่า ห้ามนำบัตรสวัสดิการประชารัฐไปขายต่อเด็ดขาย หรือส่งต่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่เกี่ยวข้อง หากตรวจสอบพบจะถูกตัดสิทธิ์ไปตลอด ส่วนสวัสดิการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ รัฐบาลกำลังประชุมเพื่อหามาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยต่อไป ส่วนการอุทธรณ์คุณสมบัติในกรณีผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและต้องการอุทธรณ์สามารถตรวจสอบคุณสามบัติใหม่ได้ในวันที่ 29 ก.ย.นี้

ขณะที่นางติ๋ว บางณรงค์ อายุ 61 ปี อาชีพค้าขาย ซึ่งเป็นผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายแรกของจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับบัตรดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบว่าสามารถใช้ไหนที่ไหนบ้าง และสามารถชื้ออะไรได้บ้าง แต่ก็ยังดีที่รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือคนยากคนจน.