รอง ผบช.ภ.4 สั่งทุกโรงพักจับตาแกนนำ เฝ้าสถานที่สำคัญตลอด 24 ชม. พร้อมเปิดห้อง ศปก.ตามข่าวคดีจำนำข้าว เบื้องต้นยังไม่พบความเคลื่อนไหวเป็นกลุ่ม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ส.ค.60 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ในช่วงที่ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษาคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า คดีดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ในส่วนของภาค 4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด ได้ประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนรวมทั้งแกนนำ มาตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.จิตรจรูญ กล่าวต่อว่า เฉพาะในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ได้สั่งให้ ผกก.ทุกโรงพัก เปิดห้อง ศปก.ติดตามข่าวสารการตัดสินคดี รวมทั้งความเคลื่อนไหวต่างๆ ในพื้นที่ และติดตามข่าวสารจากทางโซเชียล ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ทุกวัน และให้ทุกจังหวัดตั้งจุดตรวจ รวมแล้ว 40 จุด โดย 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบนนั้น มีมวลชนจำนวนไม่น้อยที่ไปให้กำลังอดีตนายกรัฐมนตรี แต่จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการเดินทางไปแบบหมู่คณะ และไม่มีการเหมารถหรือมีแกนนำพาไป เนื่องจากการทำงานในพื้นที่ภาค 4 นั้น ทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งมีการเรียกแกนนำในแต่ละจังหวัดเข้าพูดคุยทำความเข้าใจถึงการนำมวลชนเข้าไปให้กำลังใจอดีตนายกฯ ที่ศาลฎีกาฯ ซึ่งแกนนำแต่ละพื้นที่ยืนยันว่า จะไม่มีการนำมวลชนไปเด็ดขาด แต่อาจจะมีบ้างที่ไปโดยส่วนตัว
...
ในขณะเดียวกัน พื้นที่ที่สั่งการดูแลพิเศษคือ จ.ขอนแก่น ได้ตั้งจุดตรวจความมั่นคง 3 ฝ่าย 5 จุด คือ จุดตรวจนาโน พื้นที่ อ.บ้านไผ่ เส้นทางมิตรภาพมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จุดตรวจน้ำพอง จุดตรวจท่าพระ จุดตรวจชุมแพ และจุดตรวจหนองเรือ โดยสั่งการเจ้าหน้าที่เข้าเวรยามไปตรวจที่รอบศาล จ.ขอนแก่น บขส. สนามบิน ซึ่งได้เริ่มเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.เป็นต้นมา ตลอด 24 ชม. ทั้งการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของแกนนำและมวลชน ตามจุดตรวจรวมถึงสถานที่สำคัญๆ ในขอนแก่น ก็ยังปกติในขณะนี้.