พายุเซินกา ถล่มอีสานช่วงปลายเดือน ก.ค. 2560 ทำให้สวนมะลิได้รับผลกระทบ ดอกมะลิเป็นโรคเชื้อรา ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ส่งผลให้ราคาพุ่ง กก.ละ 1,000 บาท แม่ค้าพวงมาลัยหันมาใช้ดอกพุดร้อยมาลัยกร ขายวันแม่แทน...

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ดอกมะลิถือเป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ เป็นสื่อแทนความกตัญญู ซึ่งลูกหลานเตรียมพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบแม่ แต่เนื่องจากพิษพายุ “เซินกา” พัดถล่มปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ดอกมะลิเป็นโรคเชื้อราดอกม่วง เก็บผลผลิตได้น้อย ราคาสูงถึง กก.ละ 1,000 บาท แม่ค้าร้อยมาลัยหันใช้มาเลือกใช้ดอกพุดที่มีสีขาวแทน

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสวนมะลิบ้านห้วยเจริญ ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี พบ นางเพลินจิตร รัตนะ อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า ปลูกสวนมะลิ 2 ไร่ จำนวน 7,000 ต้น ปกติเก็บดอกขายกิโลกรัมละ 400 บาท วันละ 15-50 กิโลกรัม มีรายได้ 8,000-15,000 บาท ช่วงเทศกาลวันแม่จะมีราคาสูง กก.ละ 1,000 บาท แต่พายุ “เซินกา” ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ฝนตกประมาณ 1 สัปดาห์ ทำให้มะลิเป็นโรคเชื้อรา ดอกแห้งไม่สมบูรณ์ ดอกม่วงเพราะหนอนกัดกิน ทำให้เน่าและร่วง เก็บผลผลิตได้น้อย ไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้แม่ค้าร้อยมาลัยหันไปใช้ดอกพุดแทน หมดเทศกาลวันแม่จะตัดแต่งกิ่งมะลิ และนำไปเผาฆ่าเชื้อรา

...

นางระเบียง พรมเมืองมิตร อายุ 63 ปี เจ้าของสวนดอกพุด บ้านห้วยเจริญ ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ปลูกดอกไม้และร้อยมาลัยขายตั้งแต่อายุ 17 ปี จนถึงปัจจุบันยังปลูกดอกไม้ขายเช่นเดิม แต่หันมาร้อยมาลัยส่งแม่ค้าแทน โดยตนปลูกมะลิ 2,000 ต้น ดอกพุด 400 ต้น และดอกดาวเรือง 1 ไร่ ช่วงนี้มะลิเป็นเชื้อรา ตนจึงหันมาเก็บดอกพุดขาย กก.ละ 100 บาท วันละ 5 กก. ที่เหลือจะนำมาร้อยมาลัยกรส่งแม่ค้า พวงละ 25 บาท จำนวน 12-20 พวง แม่ค้าจะมารับซื้อที่บ้าน และนำไปขายพวงละ 50 บาท ทำให้มีรายได้เดือนละ 10,000 บาท

ส่วน นางสาวสุพรรณ สุนิติโส อายุ 24 ปี แม่ค้าขายพวงมาลัย บริเวณสี่แยกเขื่อนห้วยหลวง ถนนอุดรธานี–หนองบัวลำภู ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ตนร้อยพวงมาลัยดอกมะลิขายบริเวณนี้มาประมาณ 1 ปี โดยตนจะเป็นคนร้อยมาลัย ส่วนสามีจะนำไปขายที่สี่แยกไฟแดง พวงมาลัยคล้องรถยนต์ขายพวงละ 20 บาท มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 20,000 บาท แต่วันนี้ตนซื้อดอกพุดมา 1 กก.ราคา 100 บาท มาร้อยมาลัยกร 30 พวง ขายพวงละ 50 บาท เนื่องในเทศกาลวันแม่ และขายใกล้หมดแล้ว

ส่วนวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันแม่ ซึ่งทุกปีตนจะร้อยมาลัยกรขายประมาณ 200 พวง แยกเป็นดอกมะลิ 50 พวง ราคา 100 บาท ดอกพุด 150 พวง ราคา 50 บาท ซึ่งตนจะขายหมดทุกปี แต่ปีนี้ดอกมะลิมีน้อยมาก เพราะมีโรคระบาด ทำให้ดอกมะลิไทยมีราคาสูงถึง กก.ละ 1,000 บาท ตนจึงหันไปซื้อดอกมะลิอินโดนีเซีย กก.ละ 700 บาทแทน ส่วนข้อดีของดอกมะลิ คือ มีกลิ่นหอม ดอกพุดไม่มีกลิ่น แต่เก็บไว้ได้นาน มีสีขาวและสวยงามเหมือนกัน.