ค้นพบรอยพระพุทธบาทสภาพสมบรูณ์ ภายในวัดพระธาตุดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ขนาดประมาณ 9 นิ้ว กว้างราว 4-5 นิ้ว ในเนื้อแผ่นหินติดกับพื้น ชาวบ้านแห่กราบขอพรจำนวนมาก...

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 พ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่ยอดเขาในเนื้อที่ของวัดพระธาตุดอยสะเก็ด (พระอารามหลวง) เป็นวัดประจำอำเภอ ตั้งอยู่หมู่ 3 ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดินทางไปพบ พระโพธิรังษี (พายัพ ฐิตปุญโญ) เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด และเป็นเจ้าอาวาสวัดด้วย

ทั้งนี้ วัดดังกล่าวตั้งอยู่บนภูเขาสูง โดยพระโพธิรังษีได้นำผู้สื่อข่าวไปดูรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่อยู่เลยวัดไปยอดเขาในบริเวณวัด โดยได้สร้างมณฑป 4 เสา มีหลังคาครอบไว้ มีรอยพระพุทธบาทพระพุทธเจ้าขนาดประมาณ 9 นิ้ว กว้างราว 4-5 นิ้ว มี 2 รอย ในเนื้อแผ่นหินติดกับพื้นหันหน้าไปทางหนองพระเจ้าหลวงติดกัน ทางวัดจึงทำครอบเอาไว้และมีกระจกปิดเอาไว้

จากการเปิดเผยของ พระโพธิรังษี กล่าวว่า เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ได้นิมิต (ฝันว่า) มีแสงขึ้นที่ยอดเขาแห่งนี้ จึงพาคนงานของวัด ชื่อนายบุญ และนายหวน (ไม่นามสกุล) เป็นคนงานมาจากแสนหวี ประเทศพม่า ทำงานให้กับวัดมานับ 10 กว่าปี ได้ขึ้นมาถือร่มเอาแทงไปตามใบไม้แห้งที่ทับถ่มกัน พบมีรองพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าในเนื้อหินป่าไม้ จึงให้คนงานเอาน้ำมาล้าง ปรากฏว่า พบเป็นรอยพระพุทธบาท ที่สมบูรณ์มากจึงได้เล่าให้สาธุชนศรัทธาที่มาทำบุญฟัง กระทั่งญาติโยมไปเล่ากันปากต่อปาก จึงได้สร้างมณฑปครอบไว้ชั่วคราว ทั้งนี้ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ทราบเรื่องจะสร้างมณฑปให้นอกจากนั้น ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมบริจาคปัจจัยสร้างมณฑป 1 แสนบาท เพื่อสร้างมณฑปถวายเป็นพระราชกุศล

...

ในทุกวันนี้ มีผู้คนที่ทราบข่าวมากราบไหว้รอยพระพุทธบาทไม่ขาดสาย ทั้งมาขอโชคขอลาภแล้วแต่ความตั้งใจศรัทธา สำหรับประวัติเมื่อสมัยหลายพันปีมาแล้ว ข้างล่างวัดแห่งนี้ มีหนองบัวพระเจ้าหลวงอันศักดิ์สิทธิ์ ได้มีนาค 2 ตัว และแปลงร่างมานำเอาดอยบัวที่ขึ้นในหนองบัว มาถวายให้พระพุทธเจ้า จึงมีรอยพระพุทธบาทเกิดขึ้น

สำหรับประวัติวัดโดยย่อที่เล่าสืบทอดกันมา เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างมาช้านาน ตั้งแต่ พ.ศ. 2155 ประมาณ 4 ร้อยกว่าปี และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ 2461 และเมื่อ พ.ศ.2543 ได้รับยกย่องฐานะให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ที่มีผลงานดีเด่นของกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ประวัติหรือตำนานตามที่บันทึกไว้ในประวัติตำนานวัดในสมัยพุทธกาล เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย ทรงตรัสรู้ธรรมอันวิเศษแล้ว ก็ได้นำเอาธรรมะออกเผยแผ่แก่ชาวชนบทน้อยใหญ่ ในชมพูทวีป จนได้มีผู้รู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมเป็นจำนวนมาก ในกลายนั้นแล พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์มาปรากฏกายทิพย์ ณ บนดอยแห่งนี้ แล้วทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีสว่างเจิดจ้าไปทั่ว

ขณะนั้นได้มีพญานาคคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในหนองบัว (ห่างจากวัดพระธาตุดอยสะเก็ด ประมาณ 1 กิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้เห็นฉัพพรรณรังสีจึงแปลกใจพากันเลื้อยขึ้นสู่บนดอยแล้ว ได้ทัศนาเห็นพระพุทธองค์ บังเกิดความเลื่อมใส จึงแปลงกายเป็นชายหนึ่งหญิงสาวมาเข้าเฝ้าพร้อมกับ ได้นำดอกบัวมาถวาย พระพุทธองค์ทรงรับเอาดอกบัวแล้วจึงทรงแสดงธรรมโปรด และประทานพระเกศาธาตุแก่พญานาคแปลงคู่นั้น พญานาคจึงได้อธิษฐานสร้างเจดีย์หิน แล้วนำเอาพระเกศาธาตุบรรจุประดิษฐานไว้บนดอยแห่งนี้

ต่อมาได้มีนายพรานผู้แสวงหาของป่าได้มาพบเห็นเจดีย์มีลักษณะสวยงาม จึงเกิดอัศจรรย์ แล้วได้นำเอาก้อนหินมาก่อเป็นรูปเจดีย์ขึ้น กลางคืนได้นิมิต (ฝัน) ว่าเจดีย์ที่ตนพบนั้น เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า จึงได้บอกกล่าว ชักชวนประชาชนในแถบนั้น ขึ้นไปสักการบูชาและเรียกชื่อภูเขาแห่งนี้ว่า “ดอยเส้นเกศ” บ้าง “ดอยสะเก็ด” บ้าง ที่เรียกว่า ดอยเส้นเกศนั้น เพราะเรียกตามพระเกศาธาตุ ที่เรียกว่า ดอยสะเก็ด เพราะเรียก 2 เพี้ยนสำเนียงตามที่พญานาคลอกคราบ (ชาวเหนือเรียกสะเก็ด หรือสละเกล็ด) คือ ถอดหรือลอกคราบนั่นเอง

ทางด้าน นายเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด เจ้าของพื้นที่ ได้ให้การว่า วัดพระธาตุดอยสะเก็ดแห่งนี้ อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของเทศบาล เรื่องที่เจ้าคณะอำเภอ หรือเจ้าอาวาสวัด ได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทนั้น เพิ่งทราบข่าวมาไม่นานนี้ ฐานะเป็นคนในอำเภอดอยสะเก็ดคนหนึ่ง รู้สึกดีใจที่ทางวัดค้นพบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า จะได้ประชุมสภาตั้งงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือทางวัดต่อไป.