เหตุเครื่อง "เชจู แอร์" ไถลออกนอกรันเวย์ น้าชายกับน้องของ "เหมย" บินไปเกาหลีใต้ เกาะติดการค้นหา ตอนนี้ยังไม่เจอร่าง

จากเหตุการณ์ สายการบิน "เชจูแอร์" ประสบอุบัติเหตุที่เกาหลีใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย รอดชีวิต 2 ราย โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น มีคนไทย รวมอยู่ด้วย  2 ราย  หนึ่งในนั้นคือ น.ส.ศศิธร จะอื่อ หรือ น้องเหมย อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้น ปีที่ 4 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 ธ.ค.67 ที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ นายธีรภัทร จะอื่อ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นน้าชายของน้องเหมย พร้อมกับน้องชายของน้องเหมย อีก 2 คน เตรียมเดินทางไปยังเกาหลีใต้ โดยมีเจ้าหน้าที่ของสายการบินเชจูแอร์ เข้ามาดูแลในการเดินทาง ตั้งแต่การเช็กอิน และการโหลดกระเป๋า ก่อนจะนำพาไปยังช่องทางพิเศษสำหรับผู้โดยสาร ซึ่งจะเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ในเวลา 15.20 น.

นายธีรภัทร เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. 67 พี่สาว ซึ่งเป็นแม่น้องเหมยโทรมา เพราะพี่สาวไปรอรับอยู่ที่สนามบิน บอกว่าเครื่องบินที่น้องเหมยเดินทางเกิดอุบัติเหตุ แต่ตนก็ไม่คิดว่าจะร้ายแรงแบบนี้ จากนั้นก็ได้เห็นข่าวในโซเชียลจึงรู้ว่าเกิดการสูญเสีย แต่ตอนนั้นไม่กล้าคุยกับพี่สาว เพราะกลัวพี่สาวจะยังทำใจไม่ได้ และพี่สาวยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแต่ว่าเครื่องดีเลย์และเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการแจ้งเสียชีวิตทันที กระทั่งพี่สาวทราบอีกทีว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ได้แจ้งมาทางตนอีกครั้ง ส่วนที่น้องเหมยเดินทางไปนั้น ก็เพราะว่าปิดเทอมจึงเดินทางไปหาแม่ที่เกาหลี ซึ่งแม่น้องเหมยทำงานและมีแฟนอยู่ที่เกาหลี ปีก่อนก็ได้เดินทางไปหาแม่ครั้งหนึ่งแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง

...

สำหรับน้องเหมย มีนิสัยร่าเริง บางครั้งก็เงียบๆ แต่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ตั้งใจเรียน ส่วนเพื่อนของน้องเหมยจะโทรไปหาทางฝั่งแม่มากกว่า เพราะพี่สาวบอกว่าเพื่อนโทรไปหาหลายคน และครูที่น้องเหมยได้เป็นศิษย์เก่าก็โทรมาบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือ ในวันนี้ก็จะเดินทางไป 3 คน มีผมและน้องชายของน้องเหมยอีก 2 คน เพราะน้องเหมยเป็นพี่สาวคนโต ในเรื่องของร่างน้องเหมย ตอนนี้ตนกับทางแม่น้องเหมยยังคิดอะไรไม่ออก ซึ่งยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับร่างของน้องเหมยยังหาไม่พบ ต้องรอตรวจดีเอ็นเอเพื่อตรวจสอบอีก เรื่องการจะนำร่างกลับมาหรือเผาแล้วนำอัฐิกลับมานั้น ต้องให้แม่น้องเหมยเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะทำพิธีเสร็จแล้วให้นำกลับมาแบบไหน หรืออาจจะให้ฝังที่นั่นเลย เพราะแม่น้องเหมยก็อยู่ที่นั่นอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องการเดินทางไปครั้งนี้จะอยู่กี่วันนั้นยังตอบไม่ได้ แต่จะอยู่จนกว่าจะเสร็จธุระทุกอย่าง ทางญาติทุกคนก็เสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เคยเห็นแต่ข่าวในทีวี แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเอง ทุกคนก็ช็อกและทำอะไรไม่ถูก ซึ่งสายการบินได้ดูแลทั้งเรื่องค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และแม่น้องเหมยก็จะไปรอรับที่สนามบินด้วย กรณีค่าเยียวยายังไม่ได้มีการสอบถาม ตอนนี้ก็ไปเดินเรื่องที่เกาหลีและหาร่างน้องให้พบก่อน