นายกเทศมนตรี ต.ป่าแมต จ.แพร่ โร่แจ้งความ หลังถูกเพจทวงหนี้โพสต์ประจานให้เสื่อมเสีย ยันไม่เคยเกี่ยวกับการค้ำประกัน จะเอาเรื่องคนทำให้ถึงที่สุด
วันที่ 19 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ นายกเทศมนตรี ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ พร้อมด้วย นางกนกวรรณ ยาวิชัย อายุ 47 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังพบว่าถูกนำภาพครอบครัว และข้อความรุนแรงมาโพสต์สร้างความเสียหายให้กับตนเองและครอบครัว
โดยได้นำภาพและข้อความ ซึ่งมีใจความระบุว่า นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ นายกเทศมนตรีตำบลป่าแมตนั้นได้เสียชีวิต เพราะติดหนี้ติดการพนันหลายล้าน ไม่มีปัญญาจ่าย ส่วนนางกนกวรรณ ยาวิชัย ได้อ้างตัวเป็นข้าราชการ อ้างพรรคพวกเป็นผู้มียศใหญ่โตมากู้เงินคนอื่นแล้วไม่ยอมคืน กู้เงินแล้วไม่จ่าย พร้อมแชร์ภาพครอบครัว และข้อความที่ทำให้เกิดความเสื่อมอื่นๆ ไปโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก และในกลุ่มต่างๆ ของจังหวัดแพร่ จึงได้นำมาเป็นหลักฐานให้เร่งติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
จากการสอบถามนางกนกวรรณ ได้เล่าว่าตนเองได้ทำการกู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน Jaidee Diary จำนวน 30,000 บาท เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 โดยโดนหักค่าปรับ (8% ต่อ วัน) เป็นเงิน 12,000 บาท คงเหลือเงินที่ได้รับ 18,000 บาท โดยวันครบกำหนดชำระเงินคือวันที่ 14 ธันวาคม 2567 จำนวน 30,000 บาท แต่ไม่สามารถชำระได้ในวันดังกล่าว
...
และในวันนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามา แต่ตนไม่ได้รับสาย โดยล่าสุดเช็คยอดที่จะต้องชำระอยู่ที่ 42,000 บาท เนื่องจากเกินกำหนดระยะเวลา มาแล้ว 5 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยกู้มาแล้วหลายครั้งและได้ทำการจ่ายคืนเรียบร้อยไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้ยังไม่ได้จ่ายคืน จึงทำให้ถูกตามโดยการโทรจิก และขอยืนยันว่า นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ นายกเทศมนตรีเทศบาลป่าแมต ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกู้เงินครั้งนี้
ทางด้าน นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ นายกเทศมนตรีตำบลป่าแมต กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นตนเคยได้รับโทรศัพท์ว่ารู้จักคนนั้นไหม คนนี้ไหม แต่ก็ไม่มีอะไร แต่ครั้งนี้รุนแรงมาก มีการโทรศัพท์มาสอบถาม และด่าทอถึงครอบครัว และนำข้อมูลรูปภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน ข้อมูลที่ทำให้ตนเสื่อมเสียไปแปะตามคอมเมนต์ ตามโพสต์ต่าง ๆ ในเพจต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดแพร่ ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เลือกตั้งท้องถิ่น ไม่รู้ว่าเจตนาของเขาคืออะไร แต่ตนนั้นยืนยันว่าตนไม่เคยเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้
เบื้องต้นที่มีการอ้างอิงในโพสต์ สอบถามแล้วว่ามีการไปกู้เงินจริง แต่ไม่เคยมีการให้ข้อมูล เอาชื่อหรือลายเซ็นต์ตนไปเป็นคนค้ำประกัน คาดว่าน่าจะเป็นการหาข้อมูลจากที่ทำงานและโซเชียลมา แต่คนโพสต์นั้นติดต่อไม่ได้ หากรับสายจะพูดประมาณว่าตนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในการกู้เงิน ซึ่งตนไม่เคยทำ แต่มีครั้งนี้ที่มีการนำไปโพสต์ที่ต่าง ๆ สำหรับคนโพสต์นั้นไม่น่าจะใช่ตัวตนจริง ๆ ของคนโพสต์เหมือนเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด.