อดีตกำนัน เล่าปมยกปืนขู่ "ผู้ใหญ่บ้าน" อ้างไม่พอใจเรื่องไม่เรียกวางผ้าบังสุกุลในงานศพ รับกินเหล้าก่อนก่อเหตุ ปืนไม่มีลูกไม่ได้ตั้งใจจะยิงจริง

จากกรณี นายทองสุข ร่องสายกา ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านร่องถ่าน ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.บำรุง น้อมเศียร ผกก.สภ.สอง เพื่อร้องทุกข์ และบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพเกิดเหตุอดีตกำนันยกปืนขู่ เนื่องจากเกรงว่าจะมีอันตรายถึงชีวิต

โดยนายทองสุข ร่องสายกา ผู้ใหญ่บ้านผู้แจ้งความ เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตนได้รับสายโทรศัพท์จากนายบุญส่ง กาศเกษม อดีตกำนัน โทรมาถามอยู่บ้านไหม ให้เข้ามาหาที่บ้านหน่อย ตนเองเลยขี่รถมาหา พอมาถึงประตูใกล้บ้าน มองเข้าไปเห็นอดีตกำนันถือปืน และยกปืนชี้มาทางตน ตนตกใจจึงทิ้งรถ และหนีเอาตัวรอดไปหลบอยู่ที่วัด แล้วโทรหาคนที่สามารถช่วยเหลือ มารับเพื่อพาออกจากพื้นที่

ซึ่งก่อนก่อนเกิดเหตุ ในหมู่บ้านมีงานศพ และตนเองรับหน้าที่เป็นพิธีกร ตอนนั้นฝนตกไม่เห็นว่าอดีตกำนันมา จึงไม่ได้เชิญออกมามอบผ้า อดีตกำนันโกรธ คิดว่าตนไม่ให้เกียรติ แต่ตนเองไม่เห็นจริงๆ และประกอบกับเขาโทรมา ก็ตั้งใจจะไปขอโทษ ไม่คิดว่าอดีตกำนันจะทำถึงขั้นนี้

...

ก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ตนเคยเป็นผู้ช่วย และทำงานร่วมกันกับอดีตกำนันมา 7-8 ปี จนกระทั่งเกษียณ ตนจึงมาลงสมัครแข่ง ซึ่งอดีตกำนันก็ส่งทีมเข้าสมัครด้วย และตนชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่เคยมีปัญหากัน แต่ก่อนเกิดเหตุ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ได้มาเล่าให้ฟังว่า อดีตกำนันล้วงปืนออกมาในงานศพเพราะโกรธตนไม่ให้เกียรติไม่เชิญไปวางผ้า ตอนนี้ตนเองและครอบครัวรู้สึกหวาดกลัว กับเหตุการณ์ดังกล่าว ยังไม่กล้าเข้าบ้าน และรถยังอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาดูแลความปลอดภัย

เบื้องต้นได้ พ.ต.อ.บำรุง น้อมเศียร ผกก.สภ.สองได้ส่งเรื่องให้กับ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ชัยวงค์ พนักงานสอบสวน สภ.สอง จ.แพร่ รับเรื่องและนำเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ มีรองเท้าแตะอยู่ในตะกร้าหน้ารถ จึงได้นำรถคันดังกล่าวกลับมามาไว้ที่ สภ.สอง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 67 นายบุญส่ง กาศเกษม อายุ 62 ปี อดีตกำนัน ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ ผู้ถูกแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ได้เปิดใจว่า ตอนนั้นตนเป็นกำนัน จึงได้ให้นายทองสุข มาเป็นผู้ช่วย เรื่องนี้เกิดเหตุจากวันงานศพ ซึ่งอยู่หน้าบ้านตน วันนั้นชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านมาเป็นเจ้าภาพ ตนเองนั้นดื่มเหล้าเยอะ รู้สึกว่าไม่ให้เกียรติตน เรื่องเรียกคนทั้งหมดไปวางผ้า จึงเรียกให้มาเคลียร์หน่อย วันนั้นตนเมาเอาปืนมาจากในลิ้นชัก แล้วไปยืนอยู่ที่เสาบ้าน เขามาเห็นก็วิ่งหนีไปเลย ตนออกไปดู เห็นรถอยู่แต่คนไม่อยู่แล้ว ก็เข้าบ้าน

ตอนเกิดเหตุนั้นตนถือปืนอยู่จริง ไม่ตั้งใจยิง แค่จะเอามาขู่ ยิงไม่ได้อยู่แล้วปืนไม่มีลูก โมโหด้วย เมาด้วย ก่อนหน้านี้ทำงานมาด้วยกันตลอด ไม่เคยมีปัญหากัน มีแค่ประเด็นเรื่องวางผ้าบังสุกุลในงานศพ ที่ไม่มีชื่อตนในวันนั้น เขาก็บอกว่าไม่มีรายชื่อมาให้ ถ้าไม่เมาคงไม่คิดมาก แต่วันนั้นเมาหนัก เขาเองก็เป็นลูกเป็นหลาน ตนยอมรับว่าขู่จริง หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็รู้สึกเสียใจอยากจะขอโทษอยากจะเคลียร์ให้เข้าใจกัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอ

ด้าน นางบุญมา กาศเกษม ภรรยาอดีตกำนัน เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั้นตนอยู่ในห้องน้ำไม่ทราบเรื่อง ออกมาก็เห็นรถมอเตอร์ไซค์ล้มอยู่หน้าบ้าน ถามว่ารถใคร กำนันก็บอกว่ารถ ผญ.สุข ตนจึงได้ออกมายกรถขึ้น และเก็บรองเท้าไว้ตะกร้าหน้ารถ ในใจตอนนั้นก็รู้สึกสงสารเพราะเห็นทิ้งรถไว้ รองเท้าหลุดตกที่ถนน ปกติพ่อกำนันถ้าไม่เมาก็ไม่มีอะไรแต่ถ้าเมาก็ค่อนข้างจะใจร้อน

...

ด้าน นายสว่าง ธรรมโม อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.12 เล่าว่า ปกตินิสัยกำนันเป็นคนตรง ตอนเป็นกำนัน ตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน ทำงานร่วมกันหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการป้องกันอาชญากรรมในหมู่บ้าน ตั้งด่านจุดตรวจยาเสพติด ทำด้วยกันมาตลอด มีลักษณะนิสัยเป็นคนซื่อตรง พูดตรงฉิน เวลาดื่มเหล้าจะอารมณ์ร้อนนิดนึง

สำหรับปัญหากับคนในหมู่บ้านไม่มี ส่วนปืนก็พกตลอดตั้งแต่เป็นกำนันมาแล้ว แล้วตอนนี้ก็ยังคงใช้อยู่ แต่ถ้าจะเอาไปขู่ใครไม่ได้ยินข่าว ตนเองก็เกษียณมาได้ปีกว่าแล้ว กำนันเป็นคนดีมาก สำหรับปัญหากับผู้ใหญ่สุขนี้ ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่แกเคยคุยกับตนนานแล้วว่าผู้ใหญ่สุขไม่ค่อยให้เกียรติกำนัน ไม่นับถือแก แต่มันจะด้วยเหตุผลอะไรนั้นตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรที่รุนแรง และทั้งคู่ก็เป็นญาติกันแล้ว ผู้ใหญ่ใหม่ก็เคยเป็นผู้ช่วยของกำนันด้านรักษาความสงบ (ผรส) กำนันเป็นคนตั้งใจทำงานมาก มีผลงานหลายๆ ผลงานในช่วงที่ผ่านมา แกจะทำงานโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นด้านการปราบปรามยาเสพติด รถเสียงดังในหมู่บ้านแทบไม่มี ถ้าถามถึงผลงานกำนันเป็นคนที่ทำงานมีผลงานดี และกำนันตำบลอื่นๆ นับถือแกแทบทุกคน.