แฟนสาวเศร้า คู่กรณีขับชน "แชมป์ดริปกาแฟชื่อดัง" จ.เชียงราย เสียชีวิตขณะปั่นจักรยาน ผ่านมา 2 เดือน ยังเจรจาเยียวยาไม่ลงตัว จ่อยื่นหนังสือร้องต้นสังกัดของ ผอ.รร. ผู้ก่อเหตุ
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนท้ายกลุ่มรถจักรยาน 9-10 คน ที่กำลังออกกำลังกายกัน บริเวณสี่แยกหนองบัวแดง-ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุทำให้ นายยศธพล ไชยเบ้า อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน ก๋างโต่งคาเฟ่ Kang tong Cafe - Coffee & roaster Chiang Rai ซึ่งเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการแข่งขันเมื่อปี 2564 ได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ("แชมป์ดริปกาแฟชื่อดัง" ถูกรถพุ่งชนท้ายเสียชีวิตขณะปั่นจักรยาน)
ล่าสุดวันที่ 11 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.โสจิลักษณ์ ใจเบ้า แฟนสาวของนายยศธพล ต้องแบกรับภาระการดูแลร้านโดยไม่มีแฟนหนุ่ม มีเพียงลูกจ้างที่นายยศธพลสอน หรือปั้นให้ทำงานช่วยร้านเพียง 1 คน ทำให้นอกจากจะเสียใจต่อการจากไป ยังต้องแบกรับภาระด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น กระนั้นร้านก็ยังคงเปิดตามปกติ โดยมีลูกค้าที่ทราบชื่อเสียงและผู้ชื่นชอบแวะเวียนไปใช้บริการ
น.ส.โสจิลักษณ์ กล่าวว่า แฟนของตนเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยคอยดูแลทั้งพ่อแม่และตน หลังสูญเสียเขาไปครอบครัวก็ลำบากขึ้น เพราะแฟนของตนเริ่มต้นตัวเองจากศูนย์ และเก็บประสบการณ์เรื่องกาแฟมานานถึง 7-8 ปี ก่อนที่จะสร้างร้านแห่งนี้ขึ้นมา และกำลังจะทำโรงคั่วกาแฟ กระทั่งก่อนเกิดเหตุ เขาเป็นที่รักของเพื่อนๆ และเป็นคนดีโดยช่วงเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ ยังนำสิ่งของออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน แต่เมื่อออกไปปั่นจักรยานกับเพื่อนๆ ได้มีรถยนต์ของคู่กรณีพุ่งชนจักรยานของเขาที่เป็นคันที่อยู่ด้านหน้าสุด จนรถจักรยานล้มลง และแฟนของตนก็บาดเจ็บสาหัส ซึ่งตนยังไม่เข้าใจว่า เหตุใดคู่กรณีจึงขับรถหลบหนีไปเพราะหากลงไปช่วยเหลือแฟนของตน อาจจะรอดชีวิตก็ได้ เพราะโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงตั้งใกล้กับที่เกิดเหตุ
...
น.ส.โสจิลักษณ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้สอบปากคำคู่กรณี ก่อนมีการดำเนินคดีและนัดเจรจากับตน แต่การเจรจาไม่ลงตัว เพราะจำนวนเงินที่เขาจะให้มา ไม่สามารถเทียบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ครอบครัวตนได้รับ ทั้งๆ ที่คู่กรณีเป็นถึงผู้บริหารโรงเรียน
ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ จากนั้นมีการนัดเจรจากันอีก ซึ่งแต่ละครั้งภรรยาของคู่กรณี ซึ่งเป็นครูเหมือนกันจะติดต่อมาหาตนรวม 2 ครั้ง โดยระบุว่าจะให้ค่าเยียวยาในจำนวนที่กำหนด ในทำนองว่าถ้าตนไม่ตกลง เขาก็จะไม่พยายามรักษาจิตใจ หรือช่วยเหลือด้านอื่นอีก ตนจึงอยากให้คำนึงถึงชีวิตของคนทั้งคนที่ต้องสูญเสียไป เพราะเขาก็มีพ่อแม่และครอบครัว รวมทั้งยังมีอายุน้อย เป็นวัยทำงาน มีความสามารถด้านกาแฟ นิสัยดีจนเป็นที่รับรู้กันในวงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผ่านระยะเวลามา 2 เดือน น.ส.โสจิลักษณ์ จึงได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อศึกษาธิการ จ.เชียงราย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 ซึ่งเป็นต้นสังกัดของผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว และได้รับคำตอบว่าจะมีการแจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เยียวยาต่อผู้สูญเสีย ทำให้คู่กรณีมีการติดต่อไปยังครอบครัวของ น.ส.โสจิลักษณ์ ถี่ขึ้น แต่จนถึงต้นเดือน ธ.ค. 2567 ยังตกลงกันไม่ได้.