กรมควบคุมมลพิษทางอากาศเขต 2 พิษณุโลก จ่อเข้าตรวจวัดมลพิษ "ห้องหมักปลาร้า" โรงงานใน จ.เพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุคนงานเสียชีวิตในบ่อหมัก 5 ราย

จากกรณีที่ วันที่ 9 ธันวาคม 2567 พ.ต.ท.ณรงค์วิทย์ วรวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ภายในโรงงานผลิตปลาร้าแห่งหนึ่งใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สาระนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ต.อ.รัง ดาวดึงส์ ผกก.สภ.หล่มสัก หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูหล่มสัก แพทย์หญิงจุฑามาศ อ่วมจ้อย แพทย์เวรโรงพยาบาลหล่มสัก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตปลาร้าชั้นเดียว มุงด้วยหลังคาสังกะสี กำแพงเป็นปูนและไม้ระแนง บรรยากาศภายในอาคารมีลักษณะอับทึบไม่ระบายอากาศ ส่งกลิ่นปลาร้าคละคลุ้งรุนแรงเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้แมสก์ถึง 2 ชั้นเพื่อเข้าไปตรวจสอบ ภายในโรงงานมีบ่อหมักปลาร้าอยู่ด้านขวามือ ประมาณ 10 บ่อ ตรงกลางของอาคารเป็นที่เก็บโอ่งหมักปลาร้าและปลาร้าบรรจุปี๊บ

บริเวณด้านในสุดฝั่งซ้ายสุดของอาคาร พบห้องหมักปลาร้าขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร ภายในมีบ่อปูนสำหรับหมักปลาร้าขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ประมาณ 4 บ่อ บริเวณก้นบ่อปูนที่อยู่ในห้องหมักปลาร้าพบร่างผู้เสียชีวิต 5 ศพนอนเรียงกระจายกันอยู่ในบ่อที่มีน้ำผสมน้ำปลาร้าขังประมาณ 40 เซนติเมตร

พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อ 1. นายหลำ เรืองน้อย อายุ 76 ปี 2. นายเอือก สมกำลัง อายุ 70 ปี 3. นายจักกฤษ เสนานุช อายุ 50 ปี 4. นายศุภกิจ ชาติเชื้อ อายุ 30 ปี 5. นายกุลชาติ อำนวยมงคลพร อายุ 41 ปี เป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้า หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูต้องเปิดหลังคาสังกะสีเพื่อระบายอากาศก่อนเคลื่อนย้ายศพขึ้นมาจากบ่อหมักปลาร้าอย่างทุลักทุเล โดยให้หน่วยกู้ภัยหมุนเวียนกันเข้าไปปฏิบัติงานเพราะกลิ่นก๊าซหมักปลาร้ารุนแรง เมื่ออยู่นานจะเกิดอาการวิงเวียนหน้ามืด

...

หลังนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาแพทย์ชันสูตรเบื้องต้นระบุผู้ตายขาดอากาศหายใจ ลักษณะคล้ายกับการเสียชีวิตของรายอื่นๆ ในบ่อเกรอะที่จะมีแก๊สสะสมปริมาณสูงมาก จนทำให้ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุหมดสติ และเสียชีวิต เบื้องต้นได้นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และนำเลือดของผู้ตายส่งไปตรวจหาสารพิษในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจที่กรุงเทพเพื่อระบุได้อย่างชัดเจน

สอบถามนายวินัย ศรีวิไล อายุ 45 ปี ผู้ที่พบศพคนแรกเล่าว่า โรงงานแห่งนี้มีพนักงานรวมตนเองด้วย 6 คน และมีนายอดิศักดิ์ เป็นพนักงานขับรถส่งของ ช่วงเช้าตนเองและนายอดิศักดิ์ได้นำปลาร้าจากโรงงานขึ้นรถปิกอัพไปส่งให้กับลูกค้าที่จังหวัดเลย

ส่วนผู้ตายที่เป็นคนงานอีก 4 คนประกอบด้วยนายหลำ เรืองน้อย, นายเอือก สมกำลัง, นายจักกฤษ เสนานุช, นายศุภกิจ ชาติเชื้อ อยู่โรงงาน และกำลังช่วยกันล้างบ่อหมักปลาร้าเตรียมรับปลาที่จะมาส่งในวันพรุ่งนี้เพื่อทำการหมักในบ่อหมักดังกล่าว

กระทั่งตกเย็น ช่วงเวลา 16.30 น. ตนทั้งสองได้เดินทางกลับมาที่โรงงานก็ไม่พบใคร หรือได้ยินเสียงใคร จึงร้องเรียกตะโกนเพื่อนคนงานแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงได้เดินเข้าไปในห้องหมักปลาร้าและใช้ไฟจากโทรศัพท์มือถือส่องจนพบร่างของเพื่อนคนงานและนายกุลชาติ ซึ่งเป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้านอนแน่นิ่งอยู่ก้นบ่อ ตนจึงได้ไปเขย่าร่างของนายหลำพบว่าไม่ไหวติงแล้วจึงรีบออกมาโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

สอบถามนางยน อุ่นแก้ว อายุ 51 ปี น้าสาวของนายศุภกิจซึ่งเป็นคนงานที่เสียชีวิตเล่าว่า ผู้ตายเป็นบุตรชายของพี่สาวและเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก ตนจึงนำมาเลี้ยงดูจนเติบโต ได้เข้าทำงานที่โรงงานผลิตปลาร้าแห่งนี้ได้ปีกว่าแล้ว ปกติผู้ตายจะเลิกงานเวลา 16.30 น. แต่วันนี้ไม่โทรศัพท์ติดต่อมาตนจึงโทรกลับมาถามว่าทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน แต่ก็ไม่มีใครรับสาย

จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาที่โรงงาน ก็พบนายวินัยและคนขับแจ้งว่าทั้งหมดอยู่ในห้อง และคาดว่าจะเสียชีวิต ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งเข้าไปดูที่ห้องหมักปลาร้า และพบว่าคนงานรวมทั้งหลานชายของตนเองและหลานเขยของเจ้าของโรงงานได้เสียชีวิตทั้งหมดที่ก้นบ่อหมักปลาร้าแล้ว จึงได้กรีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจและร้องไห้ก่อนวิ่งออกมานอกโรงงาน และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

สอบถามนางบุญนะ ฟักทอง อายุ 78 ปี ภรรยาของนายหลำ ผู้ตาย เปิดเผยว่าสามีทำงานที่โรงงานแห่งนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว ปกติจะทำงานช่วงเช้าและกลับบ้านประมาณ 17.00 น. แต่วันนี้กลับไม่พบว่าผู้ตายกลับบ้านจึงได้ออกมาตามหาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อทราบว่าสามีเสียชีวิตไปแล้ว

พล.ต.ต.สาระนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าคนงานทั้ง 4 คนได้ช่วยกันล้างทำความสะอาดบ่อ แต่น้ำที่ล้างผสมกับหัวเชื้อปลาร้าที่ตกค้างได้เกิดแก๊สพิษรุนแรงจนหมดสติ ส่วนนายกุลชาติ ซึ่งเป็นหลานเขยของเจ้าของโรงงานผลิตปลาร้า อาจเข้ามาติดตามคนงาน และพบคนงานหมดสติจึงพยายามเข้าช่วยเหลือ ก่อนหมดสติตามไปด้วยและเสียชีวิตพร้อมคนงานรวม 5 ศพ

...

ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือทำร้ายร่างกายคาดว่าจะเสียชีวิตจากการล้างบ่อหมักปลาร้า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งศพให้แพทย์ผ่าพิสูจน์ และระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้านตัวแทนจากอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เข้าตรวจสอบพบว่าโรงงานผลิตน้ำปลาร้าแห่งนี้ไม่เข้าข่ายโรงงานที่มีเครื่องจักรกำลังแรงม้าถึงตามมาตรฐานกำหนดของกระทรวงอุตสาหกรรม จึงไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อโรงงานตามระบบของกระทรวงอุตสาหกรรม

และในวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) กรมควบคุมมลพิษทางอากาศเขต 2 พิษณุโลกจะได้นำเครื่องมือมาตรวจวัดมลพิษในห้องเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้นำสังกะสีหลังคามาปิดไว้ในสภาพเดิม เพื่อให้ปริมาณมลพิษคงอยู่ใกล้เคียงขณะเกิดเหตุให้มากที่สุดเพื่อตรวจวัดให้ได้ผลที่แน่ชัดอีกครั้งว่าสูงกว่าอัตรากฎหมายกำหนดหรือไม่.