เชียงใหม่ แก๊งมือบอนพ่นสีกำแพงวัด ยังเหิมไม่เลิก จนเจ้าอาวาสวัดดังเมืองเชียงใหม่สุดจะทน เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ ด้าน “ผู้การสืบภาค 5” รับปากจะล่าตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เผยบางกำแพงวัดที่ถูกพ่น มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 พระครูวิสุทธิ กิจจานนท์ เจ้าอาวาสวัดล่ามช้าง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะตำบลศรีภูมิ เขต 4 ดูแลรับผิดชอบ 6 วัดในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากพฤติกรรมของแก๊งมือบอนที่พ่นสีโบราณสถานกำแพงวัดของเมืองเชียงใหม่ โดยในขณะนี้กำแพงวัดที่ตนดูแลอยู่ 3 แห่ง มีวัดล่ามช้าง วัดดอกเอื้อง และล่าสุดวัดเอื้องคำ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งพ่นสี นอกจากบ้านเรือนและสถานที่ราชการหลายแห่งถูกคนพวกนี้ทำการพ่นสีจนได้รับความเสียหาย

ซึ่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ตนได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อขอให้เร่งให้ทางตำรวจออกมาช่วยเหลือติดตามจับกุมคนพวกนี้ เพราะเชียงใหม่ เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาจำนวนมาก และวัดแต่ละแห่งที่ตนดูแล อยู่ในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวชอบเดินเที่ยวชมทั้งสิ้น จึงขอให้ทางตำรวจเร่งดำเนินการในเรื่องนี้

...

เกี่ยวกับเรื่องนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ได้เห็นภาพกำแพงวัดหลายแห่ง รวมทั้งรั้วและประตูบ้านของชาวบ้านในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ถูกคนมือบอนพวกนี้มาก่อเหตุแล้วสลดใจมาก โดยเฉพาะกำแพงวัดที่เก่าแก่หลายแห่งถูกพ่นสีทำลายจนเสียหายจำนวนมาก

ชาวบ้านคนหนึ่งให้ความเห็นว่า ตนเองก็เป็นช่างศิลปะ แต่เดิมที่เห็นมันไม่หนักหนาเช่นนี้ หากพ่นสีเป็นเรื่องเป็นราวออกแนวศิลปะก็ไม่ว่า แต่ที่เห็นพ่นคำหยาบคายและข้อความแสดงอาณาเขตในพื้นที่ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่ามองโดยเฉพาะเมืองเชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ จึงอยากจะขอให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองออกมาดำเนินการอย่างจริงจังเสียที

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 เผยว่า ในเรื่องนี้ทางตำรวจพื้นที่และกองบังคับการฯ รวมถึงสืบสวนภาค 5 ได้ร่วมกันนำกำลังชุดสืบสวน ออกติดตามไล่ดูกล้องวงจรปิด เพื่อจะล่าตัวให้ได้ จึงขอให้คนพวกนี้ยุติการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน และจังหวัดเชียงใหม่เองก็เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งทางตำรวจก็ได้เร่งสืบสวนติดตามอย่างเต็มที่แล้ว