ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยอมรับการดูแลการฝึกนักเรียนนายสิบที่ลำปาง มีความหละหลวม ไม่แยกเด็กป่วย จากการฝึกและการลงโทษ ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกำชับห้ามฝึกหรือลงโทษซ่อม หลัง 4 ทุ่ม
จากกรณี นักเรียนนายสิบจากโรงเรียนศูนย์ฝึกตำรวจภูธรภาค 5 ที่ลำปาง ซึ่งถูกครูฝึกซ่อมและลงโทษ ขณะที่มีอาการป่วย จนต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 29 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักเรียนนายสิบ ทั้ง 3 คน ซึ่งหายป่วยแล้ว ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่สำนักงานตำรวจภูธรเชียงใหม่
โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร เปิดเผยว่า การเรียนและการฝึกของโรงเรียนตำรวจมีระเบียบและความเข้มงวดมากกว่าโรงเรียนทั่วไปอยู่แล้ว โดยเฉพาะบทลงโทษ ซึ่งจะใช้ท่าในการบริหารร่างกาย เพื่อฝึกร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่ง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า มีความหละหลวมอยู่บ้าง หลังนักเรียนบางส่วนเป็นไข้หวัด แต่ไม่ได้คัดแยกกลุ่มนักเรียนป่วยออกมา และใช้การลงโทษตามปกติ จึงทำให้นักเรียนที่ป่วยทนไม่ไหว จนต้องส่งโรงพยาบาล ซึ่งขอให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกำชับให้ทางศูนย์ฝึกห้ามฝึก ซ่อม หรือลงโทษนักเรียน หลังเวลา 4 ทุ่ม โดยได้สั่งย้ายครูฝึก 4 คน ไปประจำที่ ศปก. เพื่อลดความกดดันของนักเรียน และอยากให้พ่อแม่ของนักเรียนสบายใจว่า ทางตำรวจจะดูแลลูกหลานที่เข้าเรียนและฝึกให้ดีที่สุด เพื่อให้เป็นตำรวจที่ดี
ขณะที่นักเรียนนายสิบ 1 ใน 3 คน ที่ถูกฝึกและลงโทษจนต้องเข้าโรงพยาบาล ยอมรับว่า ช่วงที่ถูกทำโทษทั้ง 3 คนป่วยเป็นไข้หวัด ร่างกายอ่อนแอ แต่ไม่กล้าบอกครูฝึก เมื่อถูกสั่งลงโทษจึงทนไม่ไหว จนเกิดอาการวูบไป ซึ่งหลังที่มีการย้ายครูฝึกชุดเดิมไปแล้ว และมีผู้ใหญ่เข้ามาดูแล ทำให้สบายใจขึ้น และจะยังเรียนต่อเพื่อเป็นตำรวจให้ได้
...
ด้าน พ.ต.อ.สุริยงค์ วุฒิ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 หรือ ศฝร.ภาค 5 ยืนยันว่า ในโรงเรียนไม่มีความขัดแย้งของครูฝึกในโรงเรียนแต่อย่างใด เพราะมีการพูดคุยหารือกันตลอด จากนี้ไปจะพยายามดูแลนักเรียนให้ดีขึ้น ให้เป็นไปตามระเบียบมากที่สุด