คืบหน้ารถขนเงินล้านพุ่งลงสระ ยุติสูบน้ำออกจากสระ เนื่องจากเครื่องเสีย ขณะที่หนุ่มนายหน้า อ้างเงิน 3.7 ล้านไม่ได้หาย แต่อยู่ในรถอีกคัน ด้านเจ้าของเงินตัวจริง เตรียมพบตำรวจ 

จากกรณี นายธงชัย วงค์สุวรรณ นายหน้าขายรถ ชาว อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ขับรถกระบะ เสียหลักพุ่งลงสระน้ำวัดห้วยขานาง พื้นที่หมู่ 1 ต.หนองยาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า ในรถมีเงินอยู่ 4.2 ล้านบาท และได้จมหายไปในน้ำ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย และชาวบ้านจะช่วยกันงม จนเจอเงินจำนวน 5 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าของเงินตัวจริง ซึ่งเป็นสาวนครสวรรค์ เกิดความแคลงใจ จึงขอสูบน้ำออกจากสระ เพื่อดูว่ายังมีเงินอีก 3.7 ล้านบาท จริงหรือไม่ ก่อนยุติการสูบน้ำไปเมื่อวานนี้ (15 ก.ย. 67) เนื่องจากเครื่องสูบน้ำเสีย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วันที่ 16 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมกับ พ.ต.อ.ภคิน วรรณศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง, ร.ต.อ.พจนาถ เกตุกล้า ร้อยเวร สภ.หนองฉาง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้ข้อมูลว่า ทางรูปคดีตอนนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เพราะยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความ ซึ่งทราบว่า วันนี้ทั้ง 2 คน จะเดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.หนองฉาง แต่ยังไม่ได้ระบุเวลา ซึ่งทางตำรวจก็จะได้มีการทำการส่งมอบรถยนต์คันเกิดเหตุ และเงินของกลางที่พบในที่เกิดเหตุ จำนวน 500,000 บาท คืนให้กับทาง นายธงชัย

ด้าน น.ส.สาวิตรี รวมไมตรี อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นเจ้าของเงิน ให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ว่า หลังยุติการสูบน้ำออกจากสระแล้ว ตนมีการพูดคุยกับ นายธงชัย ซึ่งเป็นนายหน้าขายรถเกี่ยวกับการรับผิดชอบชดใช้เงินอีก 3.7 ล้านบาท ที่ยังหาไม่เจอ วันนี้ทางนายธงชัย น่าจะออกจาก รพ.บ้านไร่ แล้ว และคาดว่าจะเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.หนองฉาง ซึ่งทางคดีตนเองไม่ได้มีการแจ้งเรื่องเอาความแต่อย่างใด โดยจะมีการไกล่เกลี่ยให้ นายธงชัย ทำข้อตกลงรับผิดชอบชดใช้เงินส่วนที่เหลือ

...

จากการสอบถาม นายธงชัย ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บ้านไร่ ถึงเงินจำนวน 4.2 ล้านบาท ว่า ตนลืมไปว่า ได้นำเงินสดส่วนใหญ่ ใส่ไว้ในรถอีกคันที่ลูกน้องขับไป ทำให้เงินไม่ได้จมน้ำ 

ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องเปิดกระจกรถ เนื่องจากช่วงเวลาที่ขับรถนั้นเป็นช่วงเช้ามืด มีหมอกลง จึงลดกระจกลง แต่บังเอิญตนเองหลับใน มารู้สึกตัวอีกทีรถไหลลงน้ำ จึงตกใจ และพยายามจะออกจากรถ แต่เจ็บหน้าอก เมื่อตั้งสติได้ก็พยายามออกจากรถและนั่งอยู่บนหลังคา รอจนร่างกายพร้อมจึงว่ายเข้าตลิ่ง ตอนนั้นมีเงินที่อยู่ในรถ 400,000 บาทเศษ เริ่มลอยออกจากรถ พระที่เห็นเหตุการณ์ ถามว่าใช่ของตนหรือไม่ ตนจึงตอบว่าใช่ และผู้ใหญ่บ้านก็เข้ามาช่วยเหลือ ขณะนั้น ตนบอกกับผู้ใหญ่บ้านว่า ในรถมีเงินทั้งหมดสี่ล้านบาท แต่ลืมไปว่าเงินในรถที่ตกน้ำมีเพียง 400,000 บาทเศษเท่านั้น ส่วนที่เหลืออยู่ที่รถอีกคันหนึ่งซึ่งใช้เป็นประจำ แต่บังเอิญรถคันนั้นเลอะยางมะตอย จึงเปลี่ยนมาใช้อีกคัน และนำเงินมาใส่รถคันเกิดเหตุไม่ครบ ตอนนี้เงินทั้งหมดได้เตรียมไว้จ่าย นางสาวิตรี แล้ว.