ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนไทยแล้วนะครับสำหรับการเลือกตั้ง “สว.” ชุดใหม่ระดับอำเภอตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา

ท่ามกลางข่าวสับสนวุ่นวายว่าจะมีการล้มบ้างจะเลื่อนบ้าง แต่ในที่สุดก็มีการเลือกตั้งไปตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้...แต่ผลจะเป็นอย่างไรจะมีอะไรวุ่นวายเกิดขึ้นตามมาอีกหรือไม่ คงต้องลุ้นกันต่อไปตามระเบียบ

ขึ้นชื่อว่าการเมืองไทยเนี่ย...หนีไม่พ้นความวุ่นวายไปได้ซีนะ--ฉะนั้น ขอได้โปรดทำจิตให้ว่างๆ ทำใจให้ร่มๆ ตั้งสติตามดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆก็แล้วกัน

วันนี้ผมขอทำหน้าที่บันทึกข่าวดีย้อนหลัง เพื่อเติมพลังจิตของคนไทยให้แข็งแกร่ง หลังจากเจอข่าววุ่นวายกันมาหลายวันอย่างที่ว่า

เหตุเกิดเมื่อประมาณ 8-9 โมงเช้า วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านนี้เอง หลังจากที่ผมคลิกดูข่าวเช้าประจำวันในสำนักข่าวออนไลน์ทั้งไทยทั้งเทศที่ผมประพฤติปฏิบัติเป็นประจำทุกวันครบถ้วนทุกสำนักที่ผมเป็นแฟนแล้ว ก็คลิกไปที่เว็บไซต์รายงานสถานการณ์ “อากาศ” ระดับโลก IQAIR.com ด้วยความเคยชิน

ด้วยความอยากรู้ว่าเมืองไหนของประเทศไหนในโลกนี้บ้างที่ติดอันดับโลกในเชิงอากาศแย่ที่สุด เรื่อยไปจนถึงดีที่สุดในแต่ละห้วงเวลาที่เขารายงาน ซึ่งจะมีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน

ที่อยากรู้ก็เพราะเมื่อช่วงปลายปีมาจนถึงต้นๆปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าประเทศไทยเราเจอปัญหา PM 2.5 สูงมาก เพราะมีการเผาไร่เผาป่ากันเกือบทั้งประเทศ...ส่งผลให้ 2 เมืองใหญ่ของเราที่เขาติดตามอันได้แก่ เชียงใหม่ และ กทม. (Bangkok) ขึ้นไปเป็นเมืองอากาศแย่อันดับต้นๆของโลกอยู่หลายๆครั้ง

โดยเฉพาะ เชียงใหม่ ผมจำได้แม่นยำ เพราะเคยนำมาเขียนด้วยว่า เคยขึ้นไปเป็นแชมป์โลกอากาศเสียอยู่หลายวันเลยทีเดียว

...

เขียนไปบ่นไปด้วยความเสียดาย เพราะเชียงใหม่หรืออีกหลายเมืองของภาคเหนือเคยเป็น “เมืองในฝัน” ของคนไทยทุกภาค--อยากจะแวะไปเที่ยวอยากจะขึ้นไปเยือนไปสูดอากาศอันบริสุทธิ์สดชื่น และลงเล่นน้ำในน้ำตกที่ไหลเย็น ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรอันร่มรื่น

ดังเพลง “มนต์เมืองเหนือ” ที่ ครู ไพบูลย์ บุตรขัน แต่งไว้ และ ครู สมยศ ทัศนพันธ์ ขับร้องบันทึกแผ่นเสียงเป็นคนแรกเมื่อเกือบ 70 ปีก่อนโน้น กลายเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 ของประเทศไทยอยู่หลายปี

...การที่ IQAIR ออกประกาศว่า เชียงใหม่ เป็นแชมป์โลกเมืองอากาศเสียในช่วงเวลานั้น แม้จะเพียง 2 หรือ 3 ครั้ง แต่อยู่ในท็อปเทนบ่อยมาก ได้ทำให้ความฝันของคนไทยรุ่นเก่าอย่างผมพังครืนลงในทันที...ถึงขนาด....สงสัยเมืองเหนือจะสิ้นมนต์เสียแล้วกระมัง?

ดังนั้นเมื่อพบว่า เมื่อเวลา 9 โมงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน เว็บไซต์ IQAIR รายงานว่า เมืองแย่ที่สุดของโลก ณ นาทีนั้นได้แก่ ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ตัวชี้วัด 181 เป็นสีแดง และแย่อันดับ 2 ได้แก่ จาการ์ตา (อินโดนีเซีย) ตัวชี้วัด 161 เป็นสีแดงเช่นกัน

ส่วนอันดับแย่น้อยสุด หรืออีกนัยหนึ่งเป็น “อันดับที่ดีที่สุด” หรืออันดับ 1 ของโลกในแง่อากาศดี ได้แก่ เชียงใหม่ ประเทศไทย นั่นเอง

ผมถึงขนาดต้องขยี้ตาตัวเองหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าผมมิได้ฝันไป และเมื่อขยี้แล้วก้มลงดูใหม่ก็พบว่าเชียงใหม่เป็นแชมป์โลกจริงๆ ณ นาทีนั้น

ผมไม่แน่ใจว่าเชียงใหม่จะครองแชมป์โลกอากาศดีอยู่สักกี่ชั่วโมงในวันดังกล่าว เพราะไม่ได้กลับมาดูอีกเลยหลังจากนั้น กลับมาดูอีกทีเวลาเดียวกันวันรุ่นขึ้น ปรากฏว่า เชียงใหม่ ดีน้อยลงมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในอันดับที่ 7 ประเภทดีมาก ถือว่าอยู่ในท็อปเทน โดยมีเมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ ขึ้นไปเป็นแชมป์โลกแทน

แต่แค่นี้ผมก็ปลื้มแล้วละครับ และอดที่จะต้องนำมาบันทึกไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่ เชียงใหม่ อย่างเป็นทางการเสียมิได้

การกลับมาเป็นแชมป์โลกอากาศดีของเชียงใหม่ถือว่าเป็นข่าวดีของประเทศไทยครับ--มาพร้อมกับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลไทยในช่วงฤดู “โลว์ซีซัน” และการเดินทางไปพักค้างเชียงใหม่ของนายกรัฐมนตรีพอดีเป๊ะ

พร้อมจะไปเชียงใหม่หรือจังหวัดภาคเหนืออื่นๆกันหรือยังครับ?

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม