"พศ.-สังฆาธิการ" บุกวัด "เจ้าอาวาสฉาว" เปิดฮาเร็ม-ปิดกุฏินัวเนียเด็กหนุ่ม แต่ไร้เงาเจ้าอาวาส ด้านมัคนายกเผยเจ้าอาวาสยอมรับแล้ว หลังเห็นภาพหลุด บอกรักเด็กเหมือนลูกหลาน-ไม่คิดเกินเลย แต่ถูกร้องเรียนจะยอมออกไป เพื่อไม่ให้วัดเสื่อมเสีย
จากกรณีที่เจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ถูกร้องเรียนพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยมีภาพกอดหอมกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นหลายคนในกุฏิ ส่อไปในทางไม่เหมาะสม จึงทำให้ชาวบ้านไม่สบายใจ ด้านสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) หลังทราบเรื่องดังกล่าว จึงประสานไปยังพระสังฆาธิการเข้าตรวจสอบ
ล่าสุด วันที่ 1 พ.ค. 67 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พระครูอดุลวรปัญญา เจ้าคณะตำบลหนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ในฐานะพระสังฆาธิการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.สันทราย ซึ่งเจ้าอาวาสรูปที่ถูกร้องเรียนจำวัดอยู่ โดยพระลูกวัดแจ้งว่า เจ้าอาวาสไม่อยู่ ได้ออกจากวัดไปตั้งแต่ช่วงเช้า โดยที่ไม่มีกิจนิมนต์และไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน
จากการสอบถามตามข้อร้องเรียน พระลูกวัดแจ้งว่า ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เมื่อเจ้าคณะตำบลเข้ามาตรวจสอบ ก็พยายามโทรศัพท์ไปหาเจ้าอาวาสแต่ก็ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ พร้อมกับให้ข้อมูลว่าที่วัดมีพระอยู่ 5 รูป รวมเจ้าอาวาส และมีเด็กวัดที่เป็นเด็กชายอีก 5 คน ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนดังกล่าว
ด้าน นายนพคุณ นิลุบล มัคนายก เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวานนี้ เจ้าอาวาสได้มาคุยกับตนเพราะอาจจะทราบเรื่องว่า มีภาพหลุดออกไปแล้ว โดยเจ้าอาวาสยอมรับ บอกว่ารักเด็กเหมือนลูกหลานไม่ได้คิดเกินเลย แต่เมื่อถูกร้องเรียนก็จะยอมออกไปจากวัด เพื่อไม่ให้วัดเสื่อมเสีย และขอไม่ให้มีการประชุมคณะกรรมการวัด เพราะไม่ต้องการให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต โดยบอกว่าช่วงนี้จะขอไปจำวัดอยู่ที่วัดอีกแห่งหนึ่ง และขอเวลาเก็บข้าวของย้ายออกไป แต่ไม่ได้บอกว่าจะมาขนเมื่อไร หรือจะลาสิกขาหรือไม่
...
สำหรับเด็กวัยรุ่นที่ปรากฏในภาพ เป็นเด็กที่มาอาศัยที่วัด ช่วงกลางวันก็ไปเรียนหนังสือ วันไหนไม่มีเรียนก็จะมาช่วยงานวัด ตามเจ้าอาวาสมอบหมาย โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกร้องเรียนพร้อมหลักฐานชัด ส่วนหลังจากนี้ให้เป็นเรื่องของการสอบสวนวินัยของฝ่ายปกครองสงฆ์ หากได้ข้อสรุปทางคณะกรรมการวัดก็จะมีการหารือเกี่ยวกับเจ้าอาวาสรูปใหม่ที่จะมาแทน
ขณะที่ พระครูอดุลวรปัญญา เจ้าคณะตำบลหนองจ๊อม กล่าวว่า กรณีนี้จะดำเนินการตามระเบียบของคณะสงฆ์ในการเรียกมาสอบข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อเจ้าอาวาสรูปนี้ได้ และหากไม่สึกและไม่สามารถติดต่อได้ภายใน 30 วัน จะต้องปลดออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสไว้ก่อนตามระเบียบสงฆ์ กรณีที่ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสโดยไม่มีเหตุอันควร ข้อร้องเรียนดังกล่าวขณะนี้เป็นเพียงข้อกล่าวหา ต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับการเข้าตรวจสอบที่วัดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ พศ.ระบุว่า มาร่วมสังเกตการณ์และประสานงาน ส่วนการสอบสวนหรือลงโทษทางวินัยนั้น เป็นเรื่องคณะปกครองสงฆ์ ที่ต้องมีการพิสูจน์ความจริงตราบเท่าที่ยังครองสมณเพศ แต่หากสึกไปแล้วก็จบ แต่ในส่วนความผิดอาญากรณีปรากฏภาพกับเยาวชน หากมีผู้ปกครองเด็กเข้าแจ้งความดำเนินคดี ก็เป็นเรื่องของทางพนักงานสอบสวน จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป