"ดอยสุเทพ" กลับมาแล้ว หลังพายุฝนช่วยบรรเทาวิกฤติหมอกควันเชียงใหม่

เช้านี้ คนเชียงใหม่มองเห็น "ดอยสุเทพ" หลังพายุฝนช่วยบรรเทาวิกฤติหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 ที่ปกคลุมเชียงใหม่มานานเกือบเดือน ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ 2567

วันที่ 11 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ปลอดโปร่งแจ่มใส ฝุ่นควันที่ปกคลุมหนาแน่นมานานเกือบหนึ่งเดือน ถูกพายุฤดูร้อนช่วยพัดระบายออกไปทั้งหมด

โดยเช้านี้ในตัวเมืองมองเห็นดอยสุเทพได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ชาวเชียงใหม่ และหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ต้องเผชิญอยู่กับวิกฤติมลพิษทางอากาศจากหมอกควันไฟป่า และฝุ่นพิษ PM 2.5 มานานเกือบ 1 เดือน จนมาถึงช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ถือว่ามีวิกฤติทางคุณภาพอากาศหนักที่สุดในรอบปี และตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมาเริ่มมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมามีทั้งลมกระโชกแรง และมีฝนตกลงมากระจายทั่วพื้นที่ รวมทั้งในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ แม้จะเป็นฝนกระจายเล็กน้อย แต่ก็ช่วยส่งผลดีต่อคุณภาพอากาศของเชียงใหม่เป็นอย่างมาก 

ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวันงาประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรืองานสงกรานต์ของชาวล้านนา และชาวเชียงใหม่พอดี ฝนที่ตกลงมาจึงช่วยบรรเทาอากาศที่กำลังร้อนจัด รวมทั้งปัญหามลพิษทางอากาศได้บรรเทาลง ทำให้คาดว่าอย่างน้อยช่วงงานปี๋ใหม่เมืองปีนี้จะมีอากาศที่สดใสพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่กลับมา

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า ฤดูกาลไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ผ่านพ้นจุดสูงสุดมาแล้ว และด้วยปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะพายุฝนที่ตกลงมาจะทำให้ป่าและใบไม้แห้งที่เป็นเชื้อเพลิงธรรมชาติเปียกชื้น ทำให้ติดไฟและลุกลามได้ยากขึ้น ประกอบกับมาตรการป้องกันเข้มข้นของเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะทำให้แนวโน้มไฟป่าลดลง และสิ้นสุดลงอย่างช้าที่สุดต้นเดือนพฤษภาคมนี้ 

สำหรับตัวเลขจุดฮอตสปอตเช้านี้ของเชียงใหม่พบว่าลดลง และเป็นอีกครั้งที่จุดความร้อนเชียงใหม่เป็นศูนย์ ไม่พบการเผาในพื้นที่ เป็นผลมาจากฝนที่ตกลงไปทั่วพื้นที่ทำให้ไฟดับหมดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยภาพถ่ายจุดความร้อนจากดาวเทียมของนาซา พบว่าจุดความร้อนที่เคยขึ้นเป็นสีแดงทั่วพื้นที่เช้านี้ลดลงไปอย่างมาก เหลือเพียงไม่กี่จุดในพื้นที่ภาคเหนือ แต่ที่ยังแดงเป็นผืนใหญ่ก็ยังอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว และพม่า 

ส่วนการจัดอันดับโลกหัวเมืองที่มีคุณภาพอากาศยอดแย่ เมื่อเวลา 08.00 น. พบว่า เชียงใหม่ หลุดท็อป 10 ของโลกไปแล้ว และลงไปอยู่อันดับที่ 13 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 105 US AQI ส่วนอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่เมืองเดลี ประเทศอินเดีย ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 223 US AQI แต่กรุงเทพมหานครกลับขึ้นมาติด 1 ใน 10 อีกครั้ง เช้านี้ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 9 ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 154 US AQI 

โดยข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษเช้านี้ คุณภาพอากาศของเชียงใหม่กลับมาอยู่ในเกณฑ์สีส้ม และสีเหลืองแล้ว เมื่อเวลา 08.00 น. มี 5 สถานีที่อยู่ในเกณฑ์สีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ

• โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต.ศรีภูมิ อ.เมือง, จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 42.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 115 AQI

• ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง, จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 47.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 128 AQI

• ต.หางดง อ.ฮอด ค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 43.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 116 AQI

• ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 61.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 163 AQI

• ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม ค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 40.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 109 AQI  

และ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ บนดอยสุเทพ คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์สีเหลือง ปานกลาง ค่าฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 30.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 73 AQI 

ทั้งนี้มีแนวโน้มว่าคุณภาพอากาศของเชียงใหม่จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยในช่วงของงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง หรืองานสงกรานต์นี้ และยังมีเรื่องของสภาพอากาศที่เป็นใจ โดยวันนี้ (11 เม.ย.) จะยังคงมีพายุฝนฟ้าคะนองได้ในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ทั้งจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และตาก.