ลำปาง-ตะลึง พบต้นไม้กว่า 1,000 ต้น ถูกตัดถูกเผาจนเหี้ยนเตียนทั้งดอย เสียหายเกือบ 200 ไร่ เหตุเกิดบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จาง (ตอนขุน) หลัง ตำรวจ ปทส.ได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดี จึงส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ อยู่ระหว่างสืบสวนหาตัวการ "กลุ่มนายทุน"
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 กำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปทส. ภายใต้ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปทส. ประสาน นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง สายที่ 1 ภายใต้การอำนวยการของ นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง)
สั่งการให้นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบตามข้อเรียนเรียนว่า มีการตัดไม้ทำลายป่าและเผาป่า เหตุเกิดบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จาง (ตอนขุน) ป่าบ้านแม่หล่วง หมู่ 7 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จำนวน 3 จุด
...
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่าสภาพป่าไม่หลงเหลือความเป็นป่า เป็นภูเขาหัวโล้น ต้นไม้เฉียดพันต้นถูกตัด ล้มระเนระนาด บางส่วนถูกชักลากออกจากพื้นที่ไปแล้ว บางส่วนถูกทิ้งกระจัดกระจายไปทั่ว สภาพพื้นที่ถูกเผาจนโล่งเตียน เจ้าหน้าที่ตรวจพบต้นไม้บางต้นยืนต้นตายเพราะถูกเจาะลำต้นแล้วหยอดยาฆ่าหญ้า สภาพป่าถูกแผ้วถางและเผา จนโล่งเตียน แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและตรวจวัดพื้นที่เสียหายเกือบ 200 ไร่ มูลค่าความเสียหายภาครัฐกว่า 11 ล้านบาท จึงทำการตรวจยึดไม้ของกลางและทำการบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิด กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54, มาตรา 72 ฐาน" ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครอง เพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต" พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน "ก่อสร้าง เผาป่า ยึดถือครอบครองป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต" ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ดำเนินการต่อไป
...
สำหรับการเข้าตรวจสอบและตรวจยึดครั้งนี้ ทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดี ว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า แผ้วถางป่า เผาป่า ส่งผลทำให้เกิดมลพิษทางอากาศและความเสียหายทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงประสานงาน มายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการทันทีและพบการกระทำผิดจริง ส่วนกลุ่มที่กระทำผิดอยู่ระหว่างสืบสวนหาตัวการต่อไป.