"พัชรวาท" ชื่นชมชาวบ้านจัดการป่าชุมชนร่องบอน ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมขอบคุณช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์เป็นมรดกให้ลูกหลาน กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ฝากประชาชนเป็นหูเป็นตาป้องกันไฟป่า

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 มี.ค. 67 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ ร่วมกันลงพื้นที่ป่าชุมชนบ้านร่องบอน ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย เพื่อติดตามการดำเนินงานของป่าชุมชน โดยมีผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่มารอให้การต้อนรับ

จากนั้นผู้นำชุมชนได้บรรยายสรุปถึงความสำคัญของป่าชุมชนบ้านร่องบอน ซึ่งเป็นหนึ่งในป่าชุมชนต้นแบบ ที่มีความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการป่าชุมชนอย่างยั่งยืน โดยชุมชนได้ร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าให้กลับมาเป็นป่าสีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ สามารถป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าลุกลามเข้ามาในพื้นที่ได้ ส่งผลให้ปัญหาหมอกควันลดลง และคุณภาพอากาศในบรรยากาศดีขึ้น นอกจากนี้ป่าชุมชนบ้านร่องบอน ยังเคยได้รับรางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับภาค ประจำภาคเหนือ เมื่อปี 2566 จากโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน โดยความร่วมมือระหว่างกรมป่าไม้ และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ได้ส่งเสริมและสนับสนุนป่าชุมชนให้เติบโต เพื่อขับเคลื่อนประเทศได้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ. 2593

...

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน สนับสนุนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคประชาชน ในการบริหารจัดการป่าร่วมกับภาครัฐ เช่น เครือข่าย ทสม., เครือข่ายป่าชุมชน, เครือข่าย รสทป., เครือข่ายอาสาสมัคร โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างการเรียนรู้ ความเข้าใจ ความเข้มแข็งในระดับพื้นที่ ร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งครั้งนี้ได้มีโอกาสมาติดตามการดำเนินงานป่าชุมชนบ้านร่องบอน ที่ จ.เชียงราย และได้ให้กำลังใจพี่น้องชาว อ.พาน เครือข่ายป่าชุมชนเชียงราย ถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ปกป้องบำรุงรักษาดูแลป่าชุมชนทั่วประเทศให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกป่าชุมชนบ้านร่องบอนทุกคน ที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ร่วมดูแลรักษาบริหารจัดการป่าชุมชนจนประสบผลสำเร็จ ทำให้ป่าชุมชนแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร แหล่งสมุนไพร สามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน เป็นมรดกแก่ลูกหลานต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ขอฝากเรื่องปัญหาไฟป่ายังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น ขอให้ประชาชนทุกคนในพื้นที่ รวมถึงเครือข่ายอาสาสมัคร เครือข่าย ทสม. เครือข่ายป่าชุมชน ร่วมกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันดูแลป้องกันไฟป่าที่จะเกิดขึ้นในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และป่าชุมชนของเราด้วย