โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2544 เพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการช่วยเหลือราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกิน การบุกรุกทำลายป่าพื้นที่ต้นน้ำลำธารเพื่อปลูกพืชเสพติด การเกิดไฟป่าและการล่าสัตว์ตามแนวทางพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่า”

จากการวิเคราะห์พื้นที่เป้าหมายและร่วมกำหนดแนวทางการพัฒนา พบว่า เกษตรกรมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต และขาดพืชที่มีศักยภาพที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ กรมวิชาการเกษตรจึงได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1 ดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงใหม่ 80 ซึ่งเป็นพันธุ์ของกรมวิชาการเกษตรมีลักษณะเด่นให้ผลผลิตสูงและต้านทานโรคราสนิม

...

พร้อมจัดฝึกอบรมการผลิตกาแฟอาราบิก้าให้เกษตรกร และจัดทำแปลงต้นแบบเทคโนโลยีการผลิตกาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงใหม่ 80 ในพื้นที่ 1 ไร่ ขยายผลสู่แปลงกาแฟเกษตรกรจำนวน 15 ครัวเรือน โดยกระจายพันธุ์กาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงใหม่ 80 จำนวน 88,000 ต้น สู่เกษตรกรในพื้นที่โครงการ

ปี 2560 เริ่มได้ผลผลิตกาแฟกะลาปริมาณ 8.4 ตัน และผลผลิตมาคงที่ในปี 2565 ปริมาณ 8.8 ตัน ช่วยเกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายกาแฟปีละ 1.3 ล้านบาท เฉลี่ยครัวเรือนละ 86,160 บาท เทียบกับปี 2560 ที่เริ่มโครงการช่วงแรกเกษตรกรมีรายได้เพียงครัวเรือนละ 60,069 บาท

ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 1.4 เท่า จากการพัฒนาการผลิตกาแฟอย่างถูกต้อง และมีคุณภาพจากการใช้พันธุ์และเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร

นอกจากนี้ ได้มีการขยายผลต้นกาแฟพันธุ์ดีและเทคโนโลยีการผลิตกาแฟของกรมวิชาการเกษตร โดยต่อยอดสู่ชุมชนใกล้เคียง ได้แก่ ชุมชนบ้านปู่หมื่น ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ 91 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกกาแฟ 100 ไร่ สร้างรายได้สู่ชุมชนปีละ 3 ล้านบาท และชุมชนบ้านหลายอาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ 81 ครัวเรือน พื้นที่ปลูก 200 ไร่ สร้างรายได้สู่ชุมชนปีละ 6 ล้านบาท จากราคากาแฟกะลาไม่ต่ำกว่า 200 บาทต่อกิโลกรัมในปี 2566 ซึ่งเป็นราคาสูงที่สุดและปริมาณผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค

โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ ได้เข้าไปให้คำแนะนำเกษตรกรในพื้นที่ปลูกกาแฟพันธุ์เชียงใหม่ 80 และใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ตัดแต่งกิ่งที่แห้งไม่ให้ผลผลิตออก ตัดฟื้นต้นทรงพุ่มกาแฟออกหมดหรือเกือบหมดทั้งทรงพุ่ม ตัดโคนต้นให้มีระดับสูงจากผิวดิน 30-50 เซนติเมตร

...

หลังจากแตกกิ่งใหม่เลือกกิ่งที่สมบูรณ์แข็งแรงไว้ประมาณ 2-3 กิ่ง พร้อมวางกับดักและสารล่อมอดเจาะผลกาแฟในอัตราส่วน 1 : 1 อัตราไร่ละ 5-10 จุดต่อไร่ เติมสารล่อทุก 2 สัปดาห์ หากพบหนอนเจาะกิ่งกาแฟ หนอนกาแฟสีแดง ให้ตัดกิ่งและลำต้นออกไปเผาทำลายนอกแปลง ส่วนโรคผลเน่าจากเชื้อแอนแทรคโนส ให้เก็บผลและตัดแต่งกิ่ง ใบที่เป็นโรคไปเผานอกแปลงปลูก

หลังเก็บเกี่ยวผลกาแฟตัดแต่งกิ่งและให้ปุ๋ยบำรุงต้นเก็บเกี่ยวกาแฟเฉพาะผลสุก 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ที่มีสีแดงและสีเหลือง-เหลืองเข้ม โดยเก็บทีละข้อไม่เก็บแบบรูด สร้างโรงเรือนตากกาแฟและตากกาแฟกะลาบนแคร่ ยกสูงมุงหลังคาพลาสติกใสไกลจากถนน

จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้โครงการ “กาแฟฟ้าห่มปก มรดกคู่ผืนป่า โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่” ได้รับรางวัลโครงการพิเศษดีเด่น ประจำปี 2566 ระดับดีมาก จากกรมวิชาการเกษตร.

ชาติชาย ศิริพัฒน์

คลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม