ลูกศิษย์ร่ำไห้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้ครูดอยคนดี ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเพราะเจียด งบประมาณอาหารกลางวันของเด็กอนุบาลและชั้นประถมไปเลี้ยงเด็ก ม.ต้นฐานะยากจน อ้างผิดระเบียบราชการ เจ้าตัวเตรียมอุทธรณ์สู้ เผยทุ่มเททั้งกายใจสอนหนังสือเด็กในถิ่น ทุรกันดารมากว่า 26 ปี ได้รับรางวัลดีเด่นมากมาย ปลุกปั้นเด็กๆจนเติบโตได้เป็นพยาบาล ครู ทหาร และผู้นำท้องถิ่น ไม่คิดต้องมาจบชีวิตราชการเพียงเพราะเรื่องแค่นี้
เรื่องราวสะเทือนใจ ครูดอยคนดีหวังช่วยเหลือลูกศิษย์ยากจนให้มีอาหารกลางวันกินอิ่มท้อง แต่กลับถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญา เพราะผิดระเบียบราชการ เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 (สพป.5) อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ กลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุรศักดิ์ เพียสุระ ผอ.เขต สพป.5 และนายสินอาจ ลำพูนพงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำเขตพื้นที่การศึกษาของประถมศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 5 เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายชัยยศ สุขต้อ ครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) ร.ร.ยางเปา สอนวิชาศิลปะ ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ความผิดอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และวันนี้ อ.ก.ค.ศ.ได้ประชุมพิจารณาความผิดวินัยร้ายแรงของนายชัยยศ
หนังสือดังกล่าวมีข้อความว่า “กราบเรียน ประธาน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 ด้วยพวกหนูเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านยางเปา และเป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยอื่นๆ รวมทั้งรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว และประกอบอาชีพตามสาขาต่างๆ ทั้งหมดเป็นลูกศิษย์ของครูชัยยศ สุขต้อ เมื่อพวกหนูรู้ว่าครูของพวกหนูกำลังประสบความยากลำบาก มีความทุกข์ใจในที่สุดของชีวิต จากการโดนกล่าวหา และชี้มูลความผิดในการทำงาน ทำให้พวกหนูทุกคนมีความเป็นห่วงครูชัยยศที่อาจถูกลงโทษด้วยวินัยร้ายแรง พวกหนูรวมตัวกันมาเพื่อขอความเมตตาอนุเคราะห์จากท่านประธาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯและคณะกรรมการ ได้โปรดเมตตาอนุเคราะห์ ให้ความเป็นธรรม คืนความยุติธรรม ให้กับครูชัยยศ หลายปีที่ผ่านมา ครูชัยยศได้ทำงานทั้งเวลาสอนและนอกเวลาสอน เพื่อลูกศิษย์ทุกคน ทุ่มเทเสียสละ เวลา และกำลังทรัพย์ เพื่อลูกศิษย์ของครูทุกคน”
...
หลังกลุ่มศิษย์เก่ายื่นหนังสือแล้ว ได้เดินทางต่อไปยังบ้านของครูชัยยศ สุขต้อ ในพื้นที่บ้านแปลง 1 อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ พบครูชัยยศได้เปิดร้านเล็กๆที่หน้าบ้านทำโรตีขายเพื่อหารายได้พิเศษ เมื่อพบหน้าครูชัยยศ กลุ่มศิษย์เก่าต่างดีใจและซาบซึ้งที่ได้พบกับผู้มีพระคุณ บางคนถึงกับน้ำตาไหลพราก สงสารครูชัยยศที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง มีโทษสูงถึงถูกไล่ออก หรือปลดออกจากราชการ ทั้งที่ครูชัยยศไม่มีพฤติการณ์ในการกระทำผิด เนื่องจากนายชัยยศ เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ อาหารกลางวันนักเรียนประถมและอนุบาลของ ร.ร.ยางเปา ต่อมาถูก ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบเมื่อปี 2563 และพบว่ามีมูลความผิด กระทั่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายชัยยศร่วมกับคณะกรรมการ รวม 4 คน
นายชัยยศให้ข้อมูลว่า ตนทุ่มเททั้งชีวิตสอนหนังสือเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ อ.อมก๋อย มานาน 26 ปี เคยได้รับรางวัลครูดีเด่นมา 10 รางวัล รางวัลที่ภาคภูมิใจที่สุดคือรางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อปี 2553 ตอนนั้นได้เงินรางวัล 2 หมื่นบาท นำมาซื้ออุปกรณ์การเรียนรู้ศิลปะและทำโครงการให้นักเรียน ขณะที่ตนรับราชการตั้งแต่ปี 2540 ได้พานักเรียนขายของและโรตีตามงานใน อ.อมก๋อย และหาทุนการศึกษาจากที่อื่น เพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์ให้ได้เรียนต่อ บางรายจบพยาบาล รับราชการเป็นครู และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นรวม 42 คน หลังจากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ตนปฏิเสธข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่มีส่วนร่วมในการเบียดบังค่าอาหารกลางวันแต่อย่างใด และหากถูก อ.ก.ค.ศ.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงอีก จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลจากอดีตผู้บริหารโรงเรียนยางเปาคนหนึ่งทราบว่า โรงเรียนแห่งนี้เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น ปกติภาครัฐได้จัดงบประมาณค่าอาหารกลางวันให้เฉพาะเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมศึกษาเท่านั้น ทำให้เด็กชั้น ม.ต้น ไม่ได้รับงบประมาณก้อนดังกล่าวด้วย ผู้บริหารโรงเรียนเห็นว่าเด็กนักเรียน ม.ต้น กลุ่มนี้ไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง และส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ไม่มีแม้กระทั่งเงินมาโรงเรียน คณะครูได้มีการบริหารจัดการงบประมาณและจัดซื้อวัตถุดิบอาหารกลางวันเพิ่มเติม เพื่อเผื่อแผ่ให้กับเด็กกลุ่มนี้ที่เป็นนักเรียนกินนอนเรียนชั้น ม.ต้น ด้วยภาวะที่งบประมาณมีจำกัด แต่โรงเรียนต้องดูแลเด็กทุกคนให้อิ่มท้องเพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กดอยฐานะยากจนมาก หากไม่ได้รับการสนับสนุนด้านอาหารและที่พัก พ่อแม่ผู้ปกครองจะไม่ส่งลูกหลานมาเรียนหนังสือ ทำให้มีผู้ไม่ประสงค์ดีไปยื่นร้องเรียนกับ ป.ป.ช. กระทั่งมีการชี้มูลความผิดในที่สุด
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่