สถานการณ์ชายแดนด้านแม่ฮ่องสอน ทหารเมียนมาใช้เครื่องบินขนส่งทิ้งอาวุธ และเสบียงให้กำลังพล หลังถูกกองกำลังผสมกะเหรี่ยงกลุ่มต่อต้านซุ่มโจมมีตัดเส้นทางลำเลียง ล่าสุด ทอ.พม่าใช้เครื่องบินรบโจมตีตอบโต้ มีทหารกะเหรี่ยงและพลเรือนบาดเจ็บ เผยผู้ลี้ภัยในค่ายกว่า 50 แห่ง ในรัฐคะเรน กำลังเดือดร้อนขาดแคลนอาหารและยารักษาโรคอย่างหนัก จากมาตรการ "4 ตัด" ของรัฐบาลเมียนมา

วันที่ 31 ส.ค. 66 มีรายงานว่า หลังทหารเมียนมาถูกกองกำลังผสมกะเหรี่ยงกลุ่มต่อต้าน ปิดเส้นทางลำเลียงอาวุธและเสบียงอาหารเข้าไปยังเนิน 2888 และเนิน 3222 ในเขตพื้นที่เมืองซาดอว์ จ.ลอยก่อว์ เพื่อตัดการส่งบำรุงให้กับทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 134 ที่อยู่ประจำฐานปฏิบัติการดอยทีสะเคอ ชายแดนฝั่งตรงข้ามบ้านดอยแสง ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยก่อนหน้านั้นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทหารเมียนมาพยายามลำเลียงอาวุธและอาหารเข้ามาทางภาคพื้น แต่ถูกกองกำลังผสมกะเหรี่ยงซุ่มโจมตี จนส่งผลให้ทหารเมียนมาที่ทำหน้าที่คุ้มกันการลำเลียงเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนาย พร้อมถูกกลุ่มกะเหรี่ยงยึดอาวุธและเสบียงไปได้ทั้งหมด

...

ขณะที่ทหารเมียนมาพยายามที่จะส่งอาวุธและเสบียงอาหารเข้าไปยังฐานปฏิบัติการดอยทีสะเคอให้ได้เร็วที่สุด เนื่องจากหวั่นเกรงว่าหากกำลังพลอ่อนแอลง อาจถูกกองกำลังกะเหรี่ยงบุกเข้ายึดฐานที่มั่นดังกล่าวได้ ล่าสุด ช่วงบ่ายของวันที่ 30 ส.ค ที่ผ่านมา กองทัพอากาศเมียนมาได้ใช้เครื่องบินแบบขนส่ง Y–8D จำนวน 1 ลำ เข้ามาส่งอาวุธและเสบียงอาหารให้กับกำลังพลทหารประจำฐานดอยทีสะเคอ โดยมีการบินวนเหนือพื้นที่จุดเป้าหมายทั้งหมด 5 รอบ 3 รอบแรกคาดว่าเป็นการบินวนเพื่อทดสอบว่าจะมีการต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามทางภาคพื้นดินหรือไม่ เมื่อเห็นว่าน่าจะปลอดภัย จากนั้นอีก 2 รอบจึงทำการบินเข้าทิ้งสิ่งของที่เป็นกล่องลงยังฐานดอยทีสะเคอ 2 ครั้ง ครั้งละ 3 กล่อง รวม 6 กล่อง โดยจุดที่ทิ้งสิ่งของลงอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทยออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ช่วงเวลาใกล้ฟ้าสาง ของวันที่ 31 ส.ค. 66 กองทัพอากาศเมียนมา ยังได้ใช้เครื่องบินขับไล่โจมตีกองกำลังผสมกะเหรี่ยงที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองดีมอโซว์ ใกล้กับค่ายรองรับผู้พลัดถิ่นภายในรัฐคะเรน โดยบินปฏิบัติการ 4 เที่ยวบิน ทำให้มีทหารกะเหรี่ยงและพลเรือนบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง และมีระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาแล้วไม่ระเบิด จำนวน 1 ลูก ซึ่งกลุ่มกะเหรี่ยงมีการเก็บกู้ระเบิดลูกดังกล่าวแล้ว 

ขณะเดียวกัน สำนักงานข่าวในรัฐคะเรนนี รายงานว่า ขณะนี้มีค่ายผู้ลี้ภัยสงครามทางทิศตะวันตกของเมืองดีมอโซว์มากกว่า 50 แห่ง กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร และยารักษาโรค อย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีผู้บริจาคให้ช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยในพื้นที่ลดลงไปมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ นอกจากนี้ ทางกองทัพเมียนมายังได้ปิดและควบคุมการขนส่งไม่ให้มีการนำอาหารเข้าถึงผู้ลี้ภัยในรัฐคะเรนนีและรัฐคะยา โดยใช้นโยบาย 4 ตัด ได้แก่ 1. การตัดเงินช่วยเหลือ 2. การตัดเส้นทางลำเลียงอาหาร 3. การตัดการติดต่อสื่อสาร และ 4. การตัดกำลังพล   ทั้งนี้นโยบาย 4 ตัด กองทัพเมียนมามุ่งเน้นตัดกำลังกลุ่มต่อต้าน และทำให้ประชาชนอ่อนแอ ไม่สามารถให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ต่างๆ ได้ 

ด้าน นายแตใหม่ ผู้ประสานงานกลุ่มบรรเทาทุกข์คะเรนนี หรือ CTER ออกมาระบุว่า สถานการณ์ในค่ายผู้หนีภัยการสู้รบในรัฐคะเรนนี ขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤติถึง 6 เมือง เนื่องจากถูกกองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง มีประชาชนราว 2 แสนคน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายใน (IDPs) หลบซ่อนในป่า หรือรวมกันเป็นค่ายผู้พลัดถิ่น ซึ่งหากยังได้รับการกดดันจากกองทัพเมียนมาไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด ในอนาคตอาจมีชาวรัฐคะเรนนีและรัฐคะยาอพยพหนีภัยการสู้รบข้ามเข้ามาฝั่งไทยเพิ่มมากขึ้นอีก.